จุฬาฯ ในสื่อ

นักวิชาการเผยคนไทยยังออมเงินไม่พอ ชี้เด็กอายุ 18 ขึ้นไปมีหนี้เร็วขึ้น

ภาควิชาการธนาคารและการเงิน คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ  เปิดผลการสำรวจ “ดัชนีความพร้อมเพื่อการเกษียณแห่งชาติ” (National Retirement Readiness Index :NRRI) ประจำปี 2566 พร้อมระดมสมองกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย และกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) แลกเปลี่ยนความคิดภายใต้หัวข้อ “การเตรียมความพร้อม เพื่อการเกษียณอายุ เรื่องใกล้ตัวกว่าที่คิด” และ “ทักษะทางการเงินและทักษะทางดิจิทัลของคนไทย” เพื่อร่วมวางมาตรการกระตุ้นการออม

ผศ.ดร.รัฐชัย ศีลาเจริญ หัวหน้าภาควิชาการธนาคารและการเงิน คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ กล่าวว่า ดัชนีชี้วัดความพร้อมเพื่อการเกษียณ หรือ NRRI เกิดจากการสำรวจข้อมูลจากประชาชนทั่วประเทศ จัดทำทุก 2 ปี เป็นดัชนีที่ครอบคลุมทั้งความมั่นคงทางการเงิน และความมั่นคงด้านสุขภาพ/คุณภาพชีวิต  ผลการสำรวจในปีนี้จากประชากร 2,464 คน พบว่าคนไทยมีความพร้อมเพื่อการเกษียณอยู่ในระดับปานกลาง ผลการวิจัยทำให้เห็นว่าคนไทยยังออมเงินไม่พอ เป็นแรงผลักดันให้คณะผู้วิจัยต้องการให้ NRRI เป็นเครื่องมือให้ทุกภาคส่วนนำไปใช้เป็นข้อมูลในการกำหนดและวางมาตรการส่งเสริมการออม ทำให้คนไทยมีทักษะด้านการจัดการเงินไม่ใช่เพียงแค่การรอบรู้เท่านั้น แต่ต้องนำไปสู่การปรับพฤติกรรมด้วย ซึ่งการส่งเสริมการออมนั้นจะต้องมีแนวทางที่แตกต่างของคนแต่ละกลุ่มวัย ในส่วนของวัยผู้ใหญ่จะต้องเน้นทักษะการจัดการปัญหาหนี้สินเป็นหลัก  กลุ่มเด็กอายุ 18 ปีขึ้นไปซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนี้เพื่อการอุปโภคบริโภคซึ่งไม่ก่อให้เกิดรายได้ในอนาคต ต้องเน้นมาตรการเชิงป้องกัน โดยสอดแทรกเข้าไปในหลักสูตรการเงินส่วนบุคคลในโรงเรียน และสถาบันการศึกษา แต่ต้องปรับโจทย์ใหม่มุ่งไปที่กระตุ้นการออมโดยตรง รวมถึงต้องให้ทักษะด้านดิจิทัลไปพร้อมกัน 

รศ.ดร.อนิรุต พิเสฎฐศลาศัย ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายการเงินและบัญชี และอาจารย์ภาควิชาการธนาคารและการเงิน คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ กล่าวว่า จากข้อมูลรายได้หลังเกษียณที่จะทำให้ประชาชนมีเงินใช้จ่ายต่อเดือนเพียงพอ ต้องอยู่ระหว่าง 15,000 – 25,000 บาท ซึ่งพบว่ามีกลุ่มคนจำนวนมากที่รายได้ไม่ถึง สิ่งที่ต้องแก้ไขเร่งด่วน คือการเพิ่มการรอบรู้ด้าน Financial Literacy และ Health Literacy เพื่อนำไปสู่การวางแผนจัดการด้านการเงินส่วนบุคคลให้ดีขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่มีความมั่นคงทางการเงิน และความมั่นคงด้านสุขภาพ/คุณภาพชีวิตในระดับต่ำ ได้แก่ กลุ่มอาชีพอิสระ ลูกจ้าง และคนทำงานรับจ้าง อยู่ในพื้นที่ภาคกลาง อายุระหว่าง 18-29 ปี ขณะที่กลุ่มคนที่มีความพร้อมสูง ได้แก่ เจ้าของกิจการ ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ

จุฬาฯ สนับสนุนให้อาจารย์ทำงานวิจัย นับว่าเป็นสิ่งที่ดีมากต่อทั้งอาจารย์ นิสิต รวมถึงภาคประชาสังคม

รองศาสตราจารย์ ดร.สุชนา ชวนิชย์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับท่าน และเพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการเว็บไซต์ที่ตรงต่อความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น ท่านสามารถทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ได้ที่ นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และท่านสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

ท่านสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

อนุญาตทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้ท่านสามารถใช้เว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ ท่านไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน โดยมีจุดประสงค์คือนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้มีคุณภาพ และสร้างประสบการณ์ที่ดีกับผู้ใช้งาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราอาจไม่สามารถวัดผลเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีขึ้นได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า