รู้จักจุฬาฯ
การบริหาร
อัตลักษณ์มหาวิทยาลัย
Green University
Sustainability
ติดต่อจุฬาฯ
บริจาคให้จุฬาฯ
หลักสูตร
การสมัครเข้าศึกษา
หน่วยงานการศึกษา
บริการนิสิต
บริการวิชาการ
บริการทางการแพทย์
บริการตรวจวิเคราะห์คุณภาพ
สารสนเทศและการสื่อสาร
พื้นที่สร้างสรรค์
ข่าวสารและความเคลื่อนไหว
วารสารจุฬาฯ
สาระความรู้
Highlights
7 มิถุนายน 2567
ผู้เขียน ภัทรพร รักเปี่ยม
คณะสัตวแพทยศาสตร์ และคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ร่วมวิจัยและพัฒนานวัตกรรมกระจกตาเทียมสามมิติจากสเต็มเซลล์ เพื่อรักษาแผลลึกที่กระจกตาสุนัข แก้ปัญหาวิธีการรักษาที่ใช้เนื้อเยื่อทดแทนเดิมซึ่งหายากและมีราคาสูง เพื่อให้สุนัขกลับมาสบายตาและมองเห็นชัดเจนอีกครั้ง
สุนัขของคุณมีอาการเหล่านี้บ้างหรือไม่? ลืมตาได้ไม่ค่อยเต็มที่นัก หรี่หรือกระพริบตาบ่อย ๆ มีน้ำตาไหล ค่อนข้างมาก บางทีน้ำตาขุ่นเป็นเมือกหรือขี้ตาเป็นสีเขียว เยื่อตาขาวมีสีแดงขึ้นผิดปกติ ตาดูไม่ใสเหมือนเดิม กระจกตาขุ่นขึ้นมีเส้นเลือดที่กระจกตา
หากคำตอบของคุณคือ “ใช่” สัตว์เลี้ยงของคุณอาจกำลังเป็นโรคแผลที่กระจกตา ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีก็จะทำให้น้องหมาตาบอดได้ในที่สุด
ปัจจุบัน สุนัขที่เข้ารับการรักษาโรคแผลที่กระจกตามีจำนวนมากขึ้น เฉพาะที่โรงพยาบาลสัตว์เล็ก คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแห่งเดียว มีสุนัขที่มีแผลในกระจกตาเข้ารับการรักษาทุกวัน!
“เราเจอรอยโรคแบบนี้ในสุนัขค่อนข้างเยอะ โรคแผลในกระจกตานี้เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ เช่น สุนัขเกาตาตัวเองเพราะมีปัญหาภูมิแพ้ ทำให้คันรอบ ๆ ดวงตาแล้วเกาจนเกิดรอยโรค การต่อสู้กับสุนัขด้วยกัน โดนแมวข่วน หรือเกิดอุบัติเหตุ เดินชนสิ่งต่าง ๆ” อาจารย์สัตวแพทย์หญิง ดร.ชูติรัตน์ ต่อสหะกุล ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงปัญหาที่เป็นจุดเริ่มต้นในการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม “กระจกตาเทียมสามมิติจากสเต็มเซลล์” เพื่อให้เจ้าตูบแสนรักกลับมามองเห็นได้ชัดและสบายตาอีกครั้ง “การรักษาที่ทำอยู่ในปัจจุบัน เราใช้แผ่นกราฟท์ที่ทำมาจากเนื้อเยื่อทดแทน เช่น เนื้อเยื่อที่ทำมาจากกระเพาะปัสสาวะของหมู รกของสุนัข ซึ่งเนื้อเยื่อดังกล่าว หายากและราคาค่อนข้างสูง รวมถึงมีโอกาสก่อให้เกิดการระคายเคืองและอักเสบหลังการผ่าตัดได้ เราเลยคิดว่าหากสามารถผลิตนวัตกรรมกระจกตาเทียมขึ้นมาเอง โดยใช้วัสดุจากธรรมชาติที่หาได้ง่าย และลดโอกาสที่จะก่อให้เกิดการอักเสบ ก็น่าจะดีกว่า”อาจารย์สัตวแพทย์หญิง ดร.ชูติรัตน์กล่าว
จากความตั้งใจในการแก้ปัญหาดวงตาให้สุนัข ทีมวิจัยจากคณะสัตวแพทยศาสตร์ โดยศูนย์ Veterinary Stem Cell and Bioengineering Innovation Center (VSCBIC) จึงเริ่มศึกษาเพิ่มเติมในเรื่องของสเต็มเซลล์ และทำงานร่วมกับศูนย์วิจัยวิศวกรรมชีวเวช คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ที่มีความรู้ความชำนาญทางด้านวิศวกรรมเนื้อเยื่อ เพื่อช่วยในการทำวัสดุยึดเกาะสำหรับเลี้ยงสเต็มเซลล์
“เนื้อเยื่อกระจกตาเทียมได้มาจากการเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์กระจกตาจริงของสุนัข บนโครงสร้างวัสดุธรรมชาติที่ทำมาจากไหมไฟโบรอิน (silk fibroin) ผสมกับเจลาติน ซึ่งเป็นวัสดุที่หาได้ง่ายในประเทศไทยและมีราคาถูก มีความแข็งแรง มีความใสที่สามารถมองเห็นได้ และยึดเกาะเซลล์ได้ดี ทำให้เซลล์เป็นสามมิติเทียบเคียงกับเนื้อเยื่อกระจกตาจริง” อาจารย์สัตวแพทย์หญิง ดร.ชูติรัตน์อธิบาย
นวัตกรรมนี้สามารถใช้รักษาปัญหากระจกตาทะลุในสุนัข และแผลกระจกตาที่มีขนาดใหญ่ ที่ไม่สามารถเย็บเนื้อกระจกตาได้ หรือแผลที่ลึกมาก ๆ ที่ชิ้นส่วนของเนื้อกระจกตาหายไปค่อนข้างมาก
ส่วนสุนัขที่มีปัญหาโรคแผลกระจกตาในระดับที่ไม่รุนแรงนักหรือในระดับปานกลาง แนวทางการรักษาในปัจจุบันก็ยังคงใช้อยู่ มี 2 วิธี ได้แก่
“แต่ถ้าแผลในกระจกตาใหญ่มากจนต้องใช้เนื้อเยื่อมาทดแทนในส่วนที่หายไปตรงนั้น ปกติแล้ว เราก็จะใช้แผ่นกราฟต์ โดยอาจจะเป็นเยื่อตาขาวของสุนัขเองก็ได้ หรือใช้เนื้อเยื่อทดแทน เช่น เนื้อเยื่อที่ทำมาจากกระเพาะปัสสาวะของหมู หรือรกของคน รกของสุนัข ซึ่งเนื้อเยื่อเหล่านี้หายาก มีราคาสูง เราจึงคิดค้นแนวทางใหม่ในการรักษา ซึ่งก็คือกระจกตาเทียมสามมิติจากสเต็มเซลล์นั่นเอง”
อาจารย์สัตวแพทย์หญิง ดร.ชูติรัตน์ สรุปจุดเด่นของนวัตกรรมกระจกตาเทียมสามมิติ ดังต่อไปนี้
ปัจจุบัน นวัตกรรม “กระจกตาเทียมสามมิติจากสเต็มเซลล์” ยังอยู่ในขั้นการทดสอบในห้องปฏิบัติการเพื่อศึกษาคุณสมบัติว่ากระจกตาเทียมสามมิติสามารถใช้ทดแทนกระจกตาได้จริงหรือไม่ และมีปฏิกิริยากับร่างกายสัตว์อย่างไร ซึ่งอาจารย์สัตวแพทย์หญิง ดร.ชูติรัตน์เผยว่าในหลายประเทศ การวิจัยนวัตกรรมดังกล่าวก็กำลังอยู่ในระดับห้องปฏิบัติการเช่นกัน
“งานวิจัยของเราได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งคาดว่านวัตกรรมนี้น่าจะได้นำมาใช้จริงกับสุนัขในไม่กี่ปีข้างหน้า และในอนาคต เราวางแผนที่จะนำองค์ความรู้นี้ไปประยุกต์ใช้ในแมวด้วย ตั้งแต่การเก็บเซลล์ หาตำแหน่งเซลล์ แยกเซลล์ และการเรียงเซลล์” อาจารย์สัตวแพทย์หญิง ดร.ชูติรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย
ผู้สนใจสามารถอ่านงานวิจัยต่อได้ที่ https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/35120168/
ครบทุกคำตอบ “กายภาพบำบัด” ฟื้นฟูและพัฒนาสุขภาพสำหรับคนทุกช่วงวัย ในงานประชุมวิชาการสภากายภาพบำบัด 21-22 พ.ย.นี้
แพทย์จุฬาฯ แนะวัคซีนป้องกันโรคไอกรน ลดความเสี่ยงติดเชื้อในทุกวัย
มิตรเอิร์ธ (MitrEarth) แพลตฟอร์มความรู้ ชี้จุดเสี่ยง แจ้งเตือนภัยพิบัติ ลดความสูญเสีย
คีเฟอร์น้ำเกสรดอกกุหลาบ เครื่องดื่มสุขภาพต้านอนุมูลอิสระ ผลงานนิสิตจุฬาฯ คว้าเหรียญทองระดับโลก
The Skinov’e นวัตกรรมสกินแคร์จากเปลือกกล้วยหอมทองปทุม ผลงานวิจัยจุฬาฯ ที่ทำให้สิวเป็นเรื่องกล้วยๆ
น้ำยายืดอายุกระดาษ นวัตกรรมจุฬาฯ อนุรักษ์เอกสารและภาพศิลปะโบราณให้คงสภาพอีกนานนับทศวรรษ
จุฬาฯ สนับสนุนให้อาจารย์ทำงานวิจัย นับว่าเป็นสิ่งที่ดีมากต่อทั้งอาจารย์ นิสิต รวมถึงภาคประชาสังคม รองศาสตราจารย์ ดร.สุชนา ชวนิชย์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จุฬาฯ สนับสนุนให้อาจารย์ทำงานวิจัย นับว่าเป็นสิ่งที่ดีมากต่อทั้งอาจารย์ นิสิต รวมถึงภาคประชาสังคม
รองศาสตราจารย์ ดร.สุชนา ชวนิชย์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับท่าน และเพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการเว็บไซต์ที่ตรงต่อความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น ท่านสามารถทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ได้ที่ นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และท่านสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
ท่านสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
ประเภทของคุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้ท่านสามารถใช้เว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ ท่านไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน โดยมีจุดประสงค์คือนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้มีคุณภาพ และสร้างประสบการณ์ที่ดีกับผู้ใช้งาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราอาจไม่สามารถวัดผลเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีขึ้นได้ รายละเอียดคุกกี้