รู้จักจุฬาฯ
การบริหาร
อัตลักษณ์มหาวิทยาลัย
Green University
Sustainability
ติดต่อจุฬาฯ
บริจาคให้จุฬาฯ
หลักสูตร
การสมัครเข้าศึกษา
หน่วยงานการศึกษา
บริการนิสิต
บริการวิชาการ
บริการทางการแพทย์
บริการตรวจวิเคราะห์คุณภาพ
สารสนเทศและการสื่อสาร
พื้นที่สร้างสรรค์
ข่าวสารและความเคลื่อนไหว
วารสารจุฬาฯ
สาระความรู้
Highlights
8 สิงหาคม 2567
ผู้เขียน ภัทรพร รักเปี่ยม
จากร้อยกรองสู่ร้อยแก้วสไตล์แนวต่างโลก นวัตกรรมสื่อการเรียนการสอนวรรณคดีไทยของอาจารย์เอกภาษาไทย คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ ที่ชวนคนรุ่นใหม่พูดคุย ตั้งคำถามและอภิปรายตัวละครและเรื่องราวในวรรณคดีไทย เชื่อมโยงกับชีวิตและปัญหาสังคมในปัจจุบัน เปลี่ยนห้องเรียนวรรณคดีไทยให้มีความร่วมสมัย สนุก และไม่น่าเบื่ออีกต่อไป
“อ่านแล้วสนุกมากเลยวรรณคดีไทยน่าสนใจมากๆ ถ้าสมัยก่อนเราได้เรียนวิชาวรรณคดีไทยในรูปแบบนี้ เราคงจะเรียนเอกภาษาไทยและวรรณคดีไทยไปแล้วแน่ๆ” นักอ่านวัยทำงานคนหนึ่งสะท้อนความรู้สึกหลังจากที่ได้อ่านหนังสือภาพประกอบสำหรับเยาวชนเรื่อง “ขุนช้างขุนแผนตอนขุนช้างถวายฎีกาฉบับ ‘ร้อยแก้ว’ (แนวต่างโลก)” หนึ่งในผลงานนอกกรอบของผู้ช่วยศาสตราจารย์หัตถกาญจน์ อารีศิลป อาจารย์ประจำภาควิชาภาษาไทย คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ ที่พยายามปรับภาพลักษณ์วรรณคดีไทยให้ร่วมสมัยโดนใจคนรุ่นใหม่
“ปัญหาการไม่สนใจวรรณคดีไทยของเยาวชนอาจไม่ได้อยู่ที่เนื้อหาในวรรณคดี แต่อยู่ที่วิธีการนำเสนอวรรณคดีไทยในการเรียนการสอนมากกว่า เราจะเห็นกระแสความนิยมเรื่องดัดแปลงจากวรรณคดีไทยในสื่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือการ์ตูน แฟนอาร์ต(Fan Art) หรือตัวละครในเกม นั่นแสดงว่าคนรุ่นใหม่ก็สนใจวรรณคดีไทย เพียงแค่เราต้องปรับภาพลักษณ์วรรณคดีไทยเสียใหม่ให้คนรุ่นใหม่รู้สึกว่าเข้าใจและเข้าถึงได้”
ด้วยความรักในวรรณคดีไทยและความตั้งใจที่จะทำให้วรรณคดีไทยมีชีวิตอยู่ต่อไปในโลกสมัยใหม่ ผศ.หัตถกาญจน์ จับมือกับ รองศาสตราจารย์ ดร. กิตติชัย เกษมศานติ์ อาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ ภาควิชานิเทศศิลป์ สาขาการถ่ายภาพ จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง จัดทำหนังสือภาพประกอบสำหรับเยาวชน โดยเรื่องแรกเป็นเรื่อง “ขุนช้างขุนแผน ตอน ขุนช้างถวายฎีกา ฉบับ ‘ร้อยแก้ว’ (แนวต่างโลก)” เผยแพร่ในปี 2566 ตามด้วยเรื่องที่ 2 “พระอภัยมณี ตอน พระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อสมุทร” เผยแพร่ในปี 2567
“เราเลือกวรรณคดีนิทานที่แพร่หลายในสังคมไทย มีหลายประเด็นน่าสนใจที่ชวนให้ถกถามในสังคมร่วมสมัย นอกจากนี้ เรื่องและตอนดังกล่าวก็ยังอยู่ในแบบเรียน ‘วรรณคดีวิจักษ์’ ซึ่งตามหลักสูตรการศึกษา นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (พระอภัยมณี) และ ม. 6 (ขุนช้างขุนแผน) จะได้เรียน การเลือกวรรณคดีทั้งสองตอนนี้ก็เลยสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมายที่เราอยากให้อ่านและชมภาพประกอบในงานของเรา โดยหวังว่าเยาวชนจะได้เห็นมุมมองที่หลากหลายในการอ่านงานเรื่องนี้ ที่ต่อยอดจากหนังสือเรียน รวมถึงคุณครูก็จะได้นำผลงานทั้ง 2 เรื่องไปใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนในชั้นเรียนได้ด้วยค่ะ”
ผศ.หัตถกาญจน์ เล่าย้อนถึงที่มาของผลงานร้อยแก้วทั้ง 2 เรื่องว่าเป็นการต่อยอดมาจากโปรเจกต์ Thaiฤทธิ์ ที่ริเริ่มขึ้นในวิชาวรรณคดีไทยพื้นฐานของคณะอักษรศาสตร์ ในช่วงปีการศึกษา 2560 – 2562
“ห้องเรียนวรรณคดีไทยควรเป็นพื้นที่ที่ส่งเสริมการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ (Critical Reading) ซึ่งจะนำไปสู่การคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinking) ให้อิสระทางความคิดกับผู้เรียน เปิดพื้นที่ให้พูดคุยถกถาม และเชื่อมต่อประสบการณ์ของตัวเองกับเรื่องราวและตัวละครในวรรณคดีได้ ให้ผู้เรียนรู้สึกว่าวรรณคดีเป็นเรื่องใกล้ตัว ซึ่งจะเป็นฐานต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking)ต่อไป” ผศ.หัตถกาญจน์ ผู้ริเริ่มโปรเจกต์ Thaiฤทธิ์ กล่าวถึงที่มาของผลงานสร้างสรรค์ (Creative Content) โดยนิสิตอักษรฯ จุฬาฯ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากการอ่านวรรณคดีไทย
ต่อมา โปรเจกต์ Thaiฤทธิ์ ก็ได้พัฒนามาเป็นวิชา “วรรณคดีไทยกับสื่อร่วมสมัย” ตั้งแต่ปีการศึกษา 2563 เป็นต้นมาเพื่อให้นิสิตได้ทดลองสร้างสรรค์สื่อประเภทต่างๆ เช่น การ์ตูนช่อง เกม คาแรกเตอร์ดีไซน์ จากวรรณคดีไทย
“ในห้องเรียนวรรณคดีไทยกับสื่อร่วมสมัยในปีการศึกษา 2565 เรานำเรื่องขุนช้างขุนแผน ตอน ขุนช้างถวายฎีกา กลับมาอ่านใหม่ด้วยกันอีกครั้งซึ่งนิสิตสนใจกันมาก มีการพูดคุย ถกถาม และอภิปรายประเด็นต่าง ๆ ซึ่งเป็นบรรยากาศการเรียนการสอนวรรณคดีไทยที่เราอยากเห็น”
ห้องเรียนวิชาวรรณคดีไทยกับสื่อร่วมสมัยในครั้งนั้น เป็นพื้นที่สำคัญที่จุดประกายให้ผศ.หัตถกาญจน์เองได้ต่อยอดโปรเจกต์ Thaiฤทธิ์ ที่เคยริเริ่มไว้ด้วยการสร้างสรรค์นวัตกรรมการเรียนการสอนวรรณคดีไทย “ร้อยแก้ว (แนวต่างโลก)” จากวรรณคดีไทยขึ้น
“เราพยายามทำให้คนรุ่นใหม่รู้สึกว่าวรรณคดีไทยไม่ได้อยู่บนหิ้ง แต่เป็นเรื่องเล่าที่จับต้องได้ เชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันและปัญหาสังคมในยุคปัจจุบัน ในขณะเดียวกัน เราก็ต้องการจะสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่รักและสานต่อวรรณคดีไทยผ่านการทำงานสร้างสรรค์ในรูปแบบต่าง ๆ”
ผศ.หัตถกาญจน์เล่าว่า ผลงานเรื่องนี้ได้รับ “แรงบันดาลใจ” มาจากเรื่องแนวต่างโลก โดยได้ขยายความเกี่ยวกับเรื่องในแนวนี้ไว้ว่า
“วรรณกรรมแนวต่างโลก (isekai) เป็นแนวเรื่องที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน พบมากในมังงะและเว็บตูน แนวเรื่องเปิดโอกาสให้ตัวละครเอกได้ทดลองใช้ชีวิตอยู่ในร่างอื่นหรือคนอื่นในดินแดนอื่นที่มีกฎกติกาของเรื่องที่แตกต่างกันออกไป เช่น เรื่อง วันทองไร้ใจ เว็บตูนโดยนักวาดชาวไทยนามปากกา Mu ที่สร้างให้ตัวละครเอกหญิงจมน้ำและเมื่อลืมตาตื่นขึ้นก็กลายเป็นว่าเธออยู่ในร่างของ “วันทอง” ตัวละครเอกในวรรณคดีเรื่อง ขุนช้างขุนแผน”
สำหรับผลงานร้อยแก้วแนวต่างโลกจากวรรณคดีไทย แม้ผศ.หัตถกาญจน์จะไม่ได้สร้างให้ตัวละครเอกชื่อ “พรนับพัน” และ “พรประทาน” นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา เกิดใหม่เป็นตัวละครในวรรณคดีไทย เพราะต้องการคงเส้นเรื่องตามวรรณคดีไว้เพื่อชี้ชวนให้ผู้อ่านได้ย้อนกลับไป “อ่านละเอียด” เรื่องราวตามต้นฉบับเพื่อชวนคิดในเชิงถกเถียงในประเด็นต่างๆ อีกครั้ง แต่ก็ได้สร้างเรื่องที่นำพาให้ตัวละครได้เข้าไปสัมผัสเรื่องราวในโลกวรรณคดีในระยะประชิดในฐานะผู้สังเกตการณ์ (observer) ได้เห็นภาพรวมของเรื่องราว และได้มุมมองที่หลากหลายในการตีความเรื่องราวไปด้วย
“เหมือนเราเป็นผู้อ่านในมุมมองพระเจ้าที่ล่วงรู้เหตุการณ์ ความรู้สึกนึกคิดของตัวละคร และความหมายที่แฝงเร้นในวรรณคดีไทย” ผศ.หัตถกาญจน์ขยายความ
นอกจากตัวละครที่เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาแล้ว ผศ.หัตถกาญจน์ ยังสร้างตัวละครหญิงนิรนามคนหนึ่ง โดยวางบทบาทให้เป็นผู้เล่าเรื่อง ชวนคุยและถกถามกับนักเรียนที่หลุดเข้าไปในโลกของวรรณคดี
“หญิงนิรนามเป็นการจำลองภาพครูผู้สอนวรรณคดีไทย ที่ในหนังสือจะทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยความรู้ (facilitator) และผู้ให้คำปรึกษา (mentor) ชวนนักเรียนพูดคุยเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ในวรรณคดีว่าคิดเห็นอย่างไร รู้สึกอย่างไร ให้อิสระผู้เรียนในการคิด และช่วยผู้เรียนพัฒนาประเด็นว่าเนื้อหาในเรื่องยังมีจุดตรงไหนที่เป็นช่องว่างอยู่บ้าง โดยสอดแทรกองค์ความรู้จากงานวิชาการของนักวิชาการในศาสตร์ต่าง ๆ ที่เคยศึกษาและตีความวรรณคดีไทยในมิติต่าง ๆ ไว้ด้วย ซึ่งต้องขอขอบคุณนักวิชาการที่ได้ศึกษาวิจัยวรรณคดีไทยมา ณ โอกาสนี้ด้วย เพราะองค์ความรู้ที่มีมาก่อนหน้ามีส่วนสำคัญในการสร้างงานเชิงต่อยอดของเรามากๆ ค่ะ”
ผศ.หัตถกาญจน์ ยกตัวอย่างเรื่องขุนช้างขุนแผน ตอน ขุนช้างถวายฎีกา ที่ผู้เรียนหลายคนข้องใจเรื่องโทษประหารของนางวันทอง และตั้งคำถามว่าเป็นโทษที่เกินกว่าเหตุหรือไม่
“เช่นในเรื่องก็จะแทรกแนวคิดของ อาจารย์ ดร.คริส เบเคอร์ และ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.ผาสุก พงษ์ไพจิตร ซึ่งตั้งคำถามสำคัญในบทความที่อาจารย์เขียนไว้ว่า ‘ทำไมต้องฆ่าวันทอง?’ ไว้ด้วยในทางประวัติศาสตร์ อาจารย์อธิบายไว้ว่าโทษประหารเป็นโทษกบฏ การได้รับโทษกบฏในเรื่องก็แปลว่าพระพันวษาตั้งใจใช้การฆ่านางวันทองเพื่อข่มขู่ขุนแผน เพราะจริง ๆ แล้วพระพันวษากลัวอำนาจของขุนแผน แต่ทำอะไรขุนแผนไม่ได้ เลยใช้ความตายของนางวันทองในการปรามขุนแผนแทน ซึ่งนักวิชาการด้านวรรณคดีไทยอาจจะไม่ได้ตีความในมุมนี้ แต่พอลองตีความตามนักประวัติศาสตร์และมองเรื่องกฎหมายดู ก็ทำให้โทษประหารของนางวันทองดูมีที่มา – ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นลอย ๆ ซึ่งเราคิดว่าจะช่วยให้นักอ่านรุ่นใหม่มองเห็นแง่มุมที่ซับซ้อนที่ซ่อนอยู่ในตัวบทวรรณคดีได้มากยิ่งขึ้น” ผศ.หัตถกาญจน์ กล่าว
แม้ว่าจะมีวิธีการเล่าเรื่อง (storytelling) ซึ่งเพิ่มเติมตัวละครใหม่และบทสนทนาของตัวละครที่นอกเหนือไปจากวรรณคดีต้นฉบับ แต่ ผศ.หัตถกาญจน์ก็ไม่ได้นิยามผลงานตนเองไว้ว่าเป็นเรื่องแต่งหรือ fiction
“เราให้ความสำคัญกับตัวบทวรรณคดีต้นฉบับ เส้นเรื่องและเนื้อหาในวรรณคดีไทยต้นฉบับจะยังคงเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด และยังมีการอ้างอิงถึงงานวิชาการต่าง ๆ ที่นำมาใช้ในการเขียนงานด้วย เราทำหน้าที่แปลเรื่องราวจาก ‘คำกลอน’ หรือ ‘ร้อยกรอง’ ที่มีรูปแบบฉันทลักษณ์ให้ออกมาเป็นภาษาสื่อสารในปัจจุบันที่ทุกคนสามารถอ่านเข้าใจได้ง่ายขึ้น ซึ่งเราเรียกงานลักษณะนี้ว่าร้อยแก้ว (prose) ในกระบวนการทำงานเราใช้มุมมองการเล่าเรื่องในการอ่านวรรณกรรมร่วมสมัยเพื่อย้อนกลับไปอ่านตัวบทวรรณคดีเก่าอีกครั้ง”
หากอ่านวรรณคดีตามขนบเดิม ตัวละครในวรรณคดีอาจจะดูแบน ๆ ไม่น่าสนใจ แต่เมื่อถอดความออกมาแล้วกลับทำให้ร้อยแก้วคล้ายบทละคร ตัวละครในวรรณคดีก็ดูจะเริ่มมีมิติและซับซ้อนมากขึ้น
“แม้ว่ายุคสมัยจะต่างกัน แต่ตัวละครในวรรณคดีไทยก็มีรัก ทุกข์ สุข โศก โกรธแค้น เหมือนกันกับคนในยุคปัจจุบัน ในฐานะมนุษย์ เราเหมือนกัน เรื่องนี้ทำให้ผู้อ่านสามารถเชื่อมโยงและเข้าใจมุมมองความคิดของตัวละครในวรรณคดีไทยได้มากขึ้น ทำให้คนอ่านรู้สึกว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวรรณคดีเป็นเรื่องใกล้ตัว หรือเป็นประเด็นที่เชื่อมโยงได้กับปัญหาสังคมในปัจจุบัน”
ผศ.หัตถกาญจน์ ยกตัวอย่างการตีความและตั้งคำถามเกี่ยวกับความรู้สึกของนางวันทองในฐานะผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่เป็นแม่ว่าคิดและรู้สึกอย่างไรในตอนที่จมื่นไวยลูกชายเลือกที่จะบุกเรือนขุนช้างเพื่อพาแม่กลับไป แทนที่จะฟ้องเรียกร้องความเป็นธรรมตามกฎหมาย หรือความรู้สึกในฐานะที่เป็นเมีย ที่มีรักเดียวแต่ต้องอยู่กับคนอื่นอย่างเลือกไม่ได้ ไม่สามารถอยู่กับคนที่รักได้
“หากถอดความตัวบทที่นางวันทองคิดและรู้สึกออกมา จะเห็นได้ว่านางวันทองเป็นผู้หญิงที่มีเหตุผลและยึดถือความถูกต้องมากคนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังทำให้เห็นว่า ตัวบทวรรณคดีอาจไม่ได้ให้พื้นที่กับผู้หญิงในการตัดสินใจใช้ชีวิตแบบที่ตัวเองต้องการ นางวันทองเองอยากจะเลือกทางชีวิตของตัวเอง แต่ทำไม่ได้เพราะมันมีเงื่อนไขชีวิตเต็มไปหมด ในขณะที่ชุดคุณค่าของคนปัจจุบันคิดว่าผู้หญิงมีเสรีภาพ ได้รับความรู้ โดยไม่ต้องยึดโยงกับผู้ชายเช่นที่นางวันทองต้องเผชิญ”
“แม้ชุดคุณค่าที่อยู่ในวรรณคดีจะแตกต่างจากชุดคุณค่าของคนในยุคปัจจุบัน แต่มันก็เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ผู้เรียนสามารถถกถามและวิพากษ์วิจารณ์ได้ ท้ายที่สุดผู้เรียนจะสามารถตอบคำถามได้ด้วยตัวเองว่าวรรณคดีไทย ‘มีคุณค่า’ ‘มีความหมาย’ อย่างไรต่อตัวเขา และเราเชื่อว่า การทำให้วรรณคดีไทยเป็นพื้นที่สำหรับเสรีภาพของการอ่านและการคิดของคนรุ่นใหม่จะทำให้คนในสังคมเห็นว่า วรรณคดีไทยเป็น ‘ทุนทางวัฒนธรรม’ (cultural capital) ที่เปิดกว้างให้กับการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ได้ต่อไป” ผศ. หัตถกาญจน์ กล่าว
“ร้อยแก้ว (แนวต่างโลก)” จากวรรณคดีไทยเรื่อง “ขุนช้างขุนแผน ตอน ขุนช้างถวายฎีกา” และ “พระอภัยมณี ตอนพระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อสมุทร” เปิดให้ดาวน์โหลดฟรีแล้ว สำหรับเรื่อง ขุนช้างขุนแผน มีทั้งเวอร์ชันภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ส่วนผลงานในลำดับต่อไปที่ ผศ.หัตถกาญจน์ อยากทำคือ กาพย์พระไชยสุริยา เพราะเป็นวรรณคดีที่มีเนื้อหาที่สามารถเชื่อมโยงกับบริบทสังคมร่วมสมัยได้ดี และยังเป็นผลงานของสุนทรภู่ กวีเอกของโลกด้วย
“เราตั้งใจว่าจะทำร้อยแก้วพร้อมภาพประกอบที่คู่ขนานไปกับแบบเรียนในโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา อยากเลือกวรรณคดีอย่างน้อย 1 เรื่องในแบบเรียน ‘วรรณคดีวิจักษ์’ มาเขียนต่อให้ครบทุกชั้นในระดับมัธยมศึกษา เพื่อจะสร้างสรรค์เนื้อหาที่เน้นการถกถามเกี่ยวกับวรรณคดีไทย และจะทำโปรเจกต์ห้องเรียน Thaiฤทธิ์ ต่อเพื่อเปิดพื้นที่ให้นิสิตสร้างสรรค์ผลงานต่อไป”
ผศ.หัตถกาญจน์ กล่าวว่า เป้าหมายของการสร้างผลงานร้อยแก้ว (แนวต่างโลก) นี้คือการได้มีส่วนร่วมในการทำให้เยาวชนและคนไทยหวนกลับมาสนใจและเห็นคุณค่าของวรรณคดีไทยอีกครั้ง
“อยากให้มองวรรณคดีในฐานะที่เป็นเรื่องเล่าของสังคม เมื่อทุกคนได้อ่านแล้ว ก็สามารถพูดคุย ถกถามกับตัวบทได้ วิพากษ์วิจารณ์ได้ ไม่มีการผูกขาดวิธีการอ่านใดว่ามีคุณค่ากว่าวิธีอื่น ๆ ท้ายที่สุดแล้ว อยากให้มองว่าวรรณคดีไทยเป็น ‘เพื่อน’ – เพื่อนที่เดินทางไปด้วยกันในการใช้ชีวิตอยู่ในโลกปัจจุบัน ที่เราสามารถนำไปทำความเข้าใจชีวิตและสังคม ประยุกต์และสร้างสรรค์ผลงาน ทำคอนเทนต์ออนไลน์ หรือต่อยอดในวิชาชีพ ทั้งในภาคธุรกิจหรือในแวดวงสื่อ ซึ่งจะทำให้วรรณคดีไทย ‘มีชีวิต’ ขึ้นมาอีกครั้ง โดยที่มีคนรุ่นใหม่เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการต่อ ‘ลมหายใจ’ ให้แก่วรรณคดีไทยค่ะ” ผศ.หัตถกาญจน์ กล่าวทิ้งท้าย
ผู้ที่สนใจอ่านร้อยแก้ว (แนวต่างโลก) จากวรรณคดีไทย สามารถดาวน์โหลดฟรีได้ที่
นอกจากนี้ สามารถติดตามเรื่องอื่นๆ ได้ที่ Facebook Page: วรรณคดีมีชีวิต Revive Thai Literature หรือ Youtube Channel: วรรณคดีมีชีวิต Revive Thai Literature
ครบทุกคำตอบ “กายภาพบำบัด” ฟื้นฟูและพัฒนาสุขภาพสำหรับคนทุกช่วงวัย ในงานประชุมวิชาการสภากายภาพบำบัด 21-22 พ.ย.นี้
แพทย์จุฬาฯ แนะวัคซีนป้องกันโรคไอกรน ลดความเสี่ยงติดเชื้อในทุกวัย
มิตรเอิร์ธ (MitrEarth) แพลตฟอร์มความรู้ ชี้จุดเสี่ยง แจ้งเตือนภัยพิบัติ ลดความสูญเสีย
คีเฟอร์น้ำเกสรดอกกุหลาบ เครื่องดื่มสุขภาพต้านอนุมูลอิสระ ผลงานนิสิตจุฬาฯ คว้าเหรียญทองระดับโลก
The Skinov’e นวัตกรรมสกินแคร์จากเปลือกกล้วยหอมทองปทุม ผลงานวิจัยจุฬาฯ ที่ทำให้สิวเป็นเรื่องกล้วยๆ
น้ำยายืดอายุกระดาษ นวัตกรรมจุฬาฯ อนุรักษ์เอกสารและภาพศิลปะโบราณให้คงสภาพอีกนานนับทศวรรษ
จุฬาฯ มีลักษณะของความเป็นพี่น้อง ความอบอุ่น เป็นสังคมที่อยากอนุรักษ์ไว้ ศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จุฬาฯ มีลักษณะของความเป็นพี่น้อง ความอบอุ่น เป็นสังคมที่อยากอนุรักษ์ไว้
ศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับท่าน และเพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการเว็บไซต์ที่ตรงต่อความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น ท่านสามารถทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ได้ที่ นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และท่านสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
ท่านสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
ประเภทของคุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้ท่านสามารถใช้เว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ ท่านไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน โดยมีจุดประสงค์คือนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้มีคุณภาพ และสร้างประสบการณ์ที่ดีกับผู้ใช้งาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราอาจไม่สามารถวัดผลเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีขึ้นได้ รายละเอียดคุกกี้