รู้จักจุฬาฯ
การบริหาร
อัตลักษณ์มหาวิทยาลัย
Green University
Sustainability
ติดต่อจุฬาฯ
บริจาคให้จุฬาฯ
หลักสูตร
การสมัครเข้าศึกษา
หน่วยงานการศึกษา
บริการนิสิต
บริการวิชาการ
บริการทางการแพทย์
บริการตรวจวิเคราะห์คุณภาพ
สารสนเทศและการสื่อสาร
พื้นที่สร้างสรรค์
ข่าวสารและความเคลื่อนไหว
วารสารจุฬาฯ
สาระความรู้
Highlights
26 กุมภาพันธ์ 2568
ผู้เขียน รัตนาวลี เกียรตินิยมศักดิ์
ของเสียอันตรายเป็นเรื่องใกล้ตัวและชุมชน ศสอ. ใช้งานวิจัยดันนโยบาย End of Waste จัดการ E-Waste อย่างต่อเนื่อง พร้อมวิจัย Mega Project ศึกษาแท่นขุดเจาะน้ำมันที่จะไม่ได้ใช้งานในอนาคต วอนทุกภาคส่วนร่วมจัดการปัญหาเพื่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
“กว่า 7 ชม. เพลิงไหม้โรงงานรีไซเคิลขนาดใหญ่ ชาวบ้านรอบ ๆ อพยพหนีกลางดึก” 6 ก.ย. 2567 จากไทยรัฐ ออนไลน์
“จนท.สั่งปิด โรงงานรีไซเคิลโลหะ ไร้ใบอนุญาต” 13 พ.ย. 2567 จาก Thai PBS
“ด่วน! ไฟไหม้โรงงานรีไซเคิล ย่านบางปู สมุทรปราการ จนท.ยังควบคุมเพลิงไม่ได้” 2 ม.ค. 2568 จากมติชน ออนไลน์
“เหตุโรงงานรีไซเคิลขยะพลาสติก จ.สมุทรสาคร นายทุนเป็นคนจีน ลักลอบนำเข้าขยะจากจีน” ประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต” 30 ม.ค. 2568 จาก The Standard
พาดหัวข่าวเหล่านี้สะท้อนปัญหาการกำจัดสารพิษและของเสียอันตราย ที่ซุกซ่อนอยู่ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทย เป็นเสมือนระเบิดเวลาที่รอวันปะทุ และนับวันรายงานเหตุเช่นนี้ดูจะเพิ่มมากขึ้น เฉพาะเดือนแรกของปี 2568 ก็มีรายงานข่าวเหตุไฟไหม้โรงงานรับกำจัดของเสียแล้ว 2 แห่ง!
“เหล่านี้เป็นปัญหาที่รอจัดการอย่างถูกต้อง ถ้าจัดการของเสียอันตรายไม่ถูกวิธี พื้นที่นั้นจะเกิดการปนเปื้อน สารและของเสียอันตรายจะลงไปในดิน ลงน้ำ ระเหยไปสู่บรรยากาศ ส่งผลต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม สารเคมีบางอย่างเราไม่ได้กลิ่น ณ วันที่มีการรั่วไหล แต่เราได้สูดเข้าไปแล้ว ในอีก 10 ปีข้างหน้า ถ้าเราเป็นมะเร็ง เราจะกลับมาย้อนดูหรือเปล่าว่าเป็นเพราะสารเคมีจากวันนั้นที่เราสูดเข้าไป” รศ. ดร.สุธา ขาวเธียร ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย (ศสอ.) กล่าว
ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย (ศสอ.) เริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2542 โดยมีภารกิจหลักคือ การวิจัย การบริการทางวิชาการ การให้คำปรึกษาแนะนำ และถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคโนโลยีต่าง ๆ ผ่านการประชุม การฝึกอบรมและกิจกรรมรณรงค์ผ่านสื่อในโอกาสต่าง ๆ นอกจากนี้ ห้องปฏิบัติการของ ศสอ. ยังให้บริการตรวจสอบและรับวิเคราะห์ตัวอย่างงานด้านสิ่งแวดล้อม อาทิ งานตรวจวัดพารามิเตอร์ต่าง ๆ สำหรับการตรวจสอบคุณภาพน้ำดี น้ำเสีย คุณภาพดิน คุณภาพอากาศ กากตะกอน และงานตรวจวิเคราะห์โลหะหนักในตัวอย่าง งานหาปริมาณคาร์บอนทั้งของแข็งและของเหลว งานวิเคราะห์หาปริมาณไอออนในน้ำ งานหาปริมาณสารอนินทรีย์ และสารอินทรีย์ต่าง ๆ
“ปัจจุบัน ศสอ. มุ่งนำเอางานวิจัยไปใช้ประโยชน์ เน้นเรื่องของเสียที่เกิดขึ้นจากอุตสาหกรรม และของเสียอันตรายที่เกิดขึ้นในชุมชนและครัวเรือน เราทำงานใกล้ชิดกับภาคอุตสาหกรรม ส่งต่อองค์ความรู้ และพัฒนาบุคลากรให้สามารถแก้ไขปัญหาของเสียอันตรายในโรงงาน ทั้งระดับพื้นที่ ในชุมชน และนโยบายระดับประเทศ” รศ. ดร. สุธา กล่าว
เมื่อพูดถึงของเสียอันตราย หลายคนนึกถึงของเสียที่เกิดขึ้นในโรงงานอุตสาหกรรม แต่แท้จริงแล้ว ของเสียอันตรายอยู่ใกล้ตัวทุกคนกว่าที่คิด
รศ. ดร.สุธา กล่าวถึงนิยาม “ของเสียอันตราย” หมายถึง เศษสิ่งของเหลือใช้ หรือเสื่อมสภาพ และภาชนะบรรจุเคมีภัณฑ์ต่างๆ ภาชนะที่ใส่อาหาร เถ้า มูลสัตว์ ซากสัตว์ หรือสิ่งอื่นใดที่เก็บกวาดจากถนน ตลาด ที่เลี้ยวสัตว์ หรือที่อื่น และหมายความรวมถึงมูลฝอยติดเชื้อ มูลฝอยที่เป็นพิษหรืออันตรายจากชุมชน
“พวกเราก็มีส่วนสร้างของเสียอันตรายด้วยกันทั้งสิ้น ยาฆ่าแมลง น้ำยาล้างห้องน้ำ น้ำยาล้างขัดสีรถ สเปรย์ สีพ่น ถ่านไฟฉาย หลอดไฟ ยาหมดอายุ แบตเตอรี่ และน้ำมันเครื่อง เหล่านี้เป็นของเสียอันตรายที่พบได้ในครัวเรือน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สังคมผู้สูงอายุ มีผู้ป่วยติดเตียงอยู่กับบ้านและในชุมชน รถขนขยะก็ไม่ได้คาดว่าจะเจอเข็มฉีดยา ซึ่งต้องรู้วิธีจัดการอย่างถูกต้อง มีการคัดแยกให้มีประสิทธิภาพ และรู้ว่าปลายทางจะไปกำจัดที่ไหน” รศ. ดร.สุธา ยกตัวอย่างของเสียอันตรายที่พบได้ในครัวเรือนและชุมชน ซึ่งต้องมีแนวทางการจัดการอย่างถูกวิธี
ของเสียอันตรายที่มีมากขึ้นเรื่อย ๆ ในสังคมดิจิทัลคือขยะอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่ง รศ. ดร.สุธา กล่าวว่าเป็นงานที่ ศสอ. ให้ความสำคัญและทำงานมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ตั้งแต่โครงการจุฬารักษ์โลก โครงการที่นำเอามือถือและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องมารีไซเคิล งานวิจัยเรื่อง E-Waste ขยะอิเล็กทรอนิกส์และของเสียอันตรายชุมชน เพื่อศึกษากิจการรับซื้อของเสียในชุมชนว่านำของเสียมาจากไหนบ้าง และจะนำไปทำอะไรต่อไป
ศสอ. จัดการสารและของเสียอันตรายจากขยะอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ อีก เช่น น้ำยาแอร์ในครัวเรือน
“น้ำยาแอร์ในครัวเรือนก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกมากกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 2,000 เท่า!” รศ. ดร.สุธากล่าว “ศสอ. จึงทำงานร่วมกับผู้ประกอบการเพื่อดูว่าเราจะทำอย่างไรให้เก็บน้ำยาแอร์ในระบบปิดเพื่อลดปัญหาโลกร้อน และศึกษาว่าสามารถนำน้ำยาแอร์มาใช้งานได้อีกหรือไม่ ถ้าใช้ไม่ได้ จะต้องปรับปรุงอย่างไรและคุ้มทุนหรือเปล่า” รศ. ดร.สุธาย้ำถึงแนวทางการทำงานของ ศสอ. “เราเน้นการนำของเสียกลับมาใช้ใหม่ หากไม่สามารถทำได้ ก็จะคิดถึงแนวทางการจัดการที่เหมาะสมเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ ศสอ. ศึกษาเรื่องแบตเตอรี่ของรถไฟฟ้าและแผงโซล่าร์เซลล์ว่าสามารถนำกลับไปใช้ใหม่ได้หรือไม่
“เราได้ทุนมาจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เพื่อศึกษาแบตเตอรี่ของรถพลังงานไฟฟ้าที่หมดอายุแต่สามารถเก็บไฟฟ้าได้ ในเมืองนอก แบตเตอรี่ของรถพลังงานไฟฟ้าที่หมดอายุ นำไปเป็นไฟฟ้าสำรองที่อื่น เราจึงกำลังศึกษาว่าจะตามเก็บแบตเตอรี่รถพลังงานไฟฟ้าได้อย่างไร และจะสนับสนุนการใช้ second life ของแบตเตอรี่ต่อไปในอนาคต”
แผงโซล่าร์เป็นอีกโครงการที่ ศสอ. กำลังศึกษา “แผงโซล่าร์ขนาดใหญ่ในโซล่าร์ฟาร์มเคยให้พลังงานไฟฟ้าสะอาด แต่เมื่อหมดอายุผลิตไฟฟ้าได้ต่ำกว่าเกณฑ์ก็จะกลายเป็นของเสียอิเล็กทรอนิกส์ เรากำลังศึกษาและพูดคุยกับผู้เกี่ยวข้องและผู้ประกอบการเอกชนเพื่อร่วมหาทางออกในการจัดการปัญหานี้ว่าจะทำอย่างไรในอนาคต ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบตามตรวจเมื่อเปลี่ยนเป็นของมือสอง” รศ. ดร.สุธา กล่าว
ศสอ. ไม่เพียงศึกษาและหาแนวทางรับมือกับของเสียอันตรายที่มีในปัจจุบัน แต่ยังต้องมองเห็น “ของเสียในอนาคต” เพื่อหาทางรับมือเสียตั้งแต่วันนี้ เช่น งานวิจัยเรื่องแท่นเจาะน้ำมันในอ่าวไทย ซึ่ง ศสอ. ได้รับทุนวิจัยจาก Malaysia-Thailand Joint Authority (MTJA)
“แท่นเจาะน้ำมันในอ่าวไทยเริ่มหมดอายุแล้ว เราจะทำอย่างไร ท้ายที่สุดจะถึง End of Life และจะเป็น Waste หรือไม่ แท่นเจาะน้ำมันพออยู่ในน้ำเป็นของหน่วยงานหนึ่ง พอนำขึ้นมาจะเป็นของเสียอุตสาหกรรมหรือเปล่า กฎหมายเป็นอย่างไร เมื่อหมดอายุแล้ว มีทางเลือกมีอะไรบ้าง ทิ้งไว้ในอ่าวไทยจะเกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมหรือเปล่า” รศ. ดร.สุธา กล่าว
“การศึกษาแท่นขุดเจาะน้ำมันไม่ใช่ทำงานวิจัยจบ 3 ปี แต่ MTJA ยังต้องการให้ ศสอ. เป็นศูนย์กลางข้อมูลเพื่อการรื้อถอนแท่นขุดเจาะน้ำมันในอนาคต ขณะนี้ ศสอ. กำลังปรับปรุงห้องปฏิบัติการเพื่อเตรียมสร้างให้เป็นศูนย์ที่มีเครื่องมือวัดปริมาณโลหะหนัก การสะสมโลหะหนักในห่วงโซ่อาหาร และมีอุปกรณ์สำหรับเก็บตัวอย่างในอ่าวไทย”
“สำหรับห้องปฏิบัติการเดิมเป็นสถานที่ฝึกหัดปฏิบัติการสำหรับนิสิตปริญญาโทและปริญญาเอก ปัจจุบันศสอ. จะพัฒนาห้องปฏิบัติการที่ไม่ได้วิเคราะห์ตัวอย่างและส่งผลกลับไปให้อย่างเดียว แต่เราจะใช้ผลจากห้องปฏิบัติการเพื่อประกอบและสนับสนุนงานวิจัย” รศ. ดร. สุธา กล่าวถึงแนวทางการพัฒนาห้องปฏิบัติการ
กรมโรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม ระบุว่าของเสียอันตรายที่เกิดขึ้นในโรงงานอุตสาหกรรมมีประมาณ 800 ชนิด และ 60% ของของเสียอันตรายพวกนี้มีโอกาสจะเปลี่ยนเป็นวัตถุดิบในการผลิตได้ ถ้าจัดการของเสียอย่างถูกต้อง ดังนั้น กรมโรงงาน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และศสอ. มีนโยบายรีไซเคิลของเสียอันตราย หรือเรียกว่า End of Waste “ของเสียถ้าพิสูจน์ได้ว่าใช้ได้ มีตลาด ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมจะไม่ถูกเรียกว่าเป็นของเสียอันตรายตามกฎหมายอีกต่อไป”
ศสอ. ในฐานะหน่วยงานวิจัยและมีห้องปฏิบัติการที่พัฒนาต่อเนื่องมา 20 ปี สามารถวิเคราะห์ตัวอย่างว่ามีอะไรปนเปื้อน รวมทั้งผู้มีความรู้นักวิจัยและมีเครือข่ายที่แข็งแรงแบ่งตามความรู้ความสามารถทั้งที่อยู่ในพื้นที่และต่างประเทศ เพื่อช่วยกันตรวจสอบว่าของเสียตัวนี้ทำอะไรได้บ้างและสามารถนำไปทำประโยชน์มากกว่านี้หรือไม่
“30-50% ของงานวิจัยของ ศสอ. มุ่งเน้นว่าทำอย่างไรจะสามารถเอาของเสียกลับมาใช้งานได้มากที่สุด และต้องทำให้สุด ของรีไซเคิลเวลาทำวิจัยแล้วมันดูตื่นเต้น แต่เวลาไปขายไม่มีใครซื้อเพราะแพง ไม่ดีและถูกมองว่าเป็นของรีไซเคิล ตอนนี้เราต้องทำให้เหนือกว่างานวิจัยทั่วไป คือต้องสามารถทำเป็นผลิตภัณฑ์ ขายได้ และศึกษาทางด้านตลาดด้วย” รศ. ดร.สุธา กล่าวพร้อมยกตัวอย่าง “ผนัง Gypsum Wall” ที่เกิดจากการนำปูนพลาสเตอร์ที่เคยใช้ในการหล่อ นำกลับมาใช้ใหม่เป็นปูนพลาสเตอร์ผสมขึ้นรูปเป็นผนัง
“นี่เป็นตัวอย่าง End of Waste ที่ศสอ. จัดการของเสียในโรงงานอุตสาหกรรม เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างผู้ประกอบการที่กำเนิดของเสีย นักวิจัยของศสอ. และผู้ประกอบการเกี่ยวกับผนัง ผลิตภัณฑ์นี้พิสูจน์แล้วว่าสามารถใช้ประโยชน์ได้จริง มีตลาดรองรับ ไม่ใช่อยู่ในห้องวิจัยบอกว่าทำได้แล้วเลิก ต้องมีโอกาสทำการตลาดขายได้จริงและมีกรมโรงงานเป็นผู้สนับสนุน” รศ. ดร.สุธา ย้ำ
End of Waste จึงเป็นการจัดการของเสียอันตรายให้กลับมาใช้ใหม่ได้เพื่อเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) คือระบบเศรษฐกิจที่ต้องการให้เราใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าที่สุดในทุกกระบวนการแทบทุกขั้นตอนไม่ควรมีอัตราการเกิดของเสีย หรือมีได้แต่ควรน้อยที่สุด เพื่อให้ทั้งกระบวนการเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ศสอ. ทำงานหลายมิติทั้งในระดับจุลภาคและมหภาค ตั้งแต่คนขับรถบรรทุกที่บรรทุกของเสียอันตราย ผู้ประกอบการผู้ก่อกำเนิดของเสีย ผู้รับกำจัดของเสีย พัฒนาบุคลากรด้านการจัดการของเสียอันตราย ไปจนถึงการทำงานระดับประเทศอย่างการศึกษาเรื่องแท่นขุดเจาะน้ำมัน เรียกได้ว่าตลอดห่วงโซ่อุปทานที่ทำให้เกิดของเสีย
เมื่อถามว่าปัจจัยใดสำคัญที่สุดในกระบวนการจัดการสารเสียและของอันตราย รศ. ดร.สุธา ตอบว่า “คนเป็นเรื่องสำคัญ เทคโนโลยีพัฒนาไปไม่เคยหยุด เราจัดการของเสียได้เยอะพอสมควร คนเองก็ต้องมีความรับผิดชอบ เห็นความสำคัญในเรื่องนี้ ผมเชื่อว่าบริษัทใหญ่คำนึงถึงเรื่องนี้ค่อนข้างดี ไม่อย่างนั้นค้าขายกับชาวบ้านไม่ได้”
“ความท้าทายต่อไปคือจะทำอย่างไรให้คนทั่วไปเห็นความสำคัญของเรื่องนี้ รวมทั้งบริษัทเล็กในห่วงโซ่อุปทานว่าเป็นหน้าที่ของเขาด้วย เราต้องให้ความสำคัญกับการจัดการของเสียทั้งห่วงโซ่อุปทาน คนใหญ่ต้องไปช่วยคนตัวเล็ก เพราะเป็นเรื่องของประเทศ เป็นเรื่องความเป็นอยู่ ถ้าล้ม ก็ล้มกันหมด ถ้าโลกร้อนตาย เราก็ตายกันหมด” รศ. ดร.สุธา กล่าวย้ำถึงความสำคัญที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันจัดการปัญหาสารและของเสียอันตราย
การจัดการของเสียอันตรายไม่ใช่เรื่องที่ทำในวันพรุ่งนี้ก็ได้ แต่เป็นเรื่องที่ต้องทำในวันนี้อย่างเร่งด่วน เพื่อวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่าเดิม
รู้จักและติดต่อ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย (ศสอ.) ได้ที่ https://hsm.chula.ac.th/website หรือโทร 02 218 3952-3 และ 02 218 4167
ปฏิวัติความหวานกับ Arto Sucrose-reduced Technology ลดน้ำตาลในผลไม้ได้ถึง 65% แถมเพิ่มพรีไบโอติก ตอบรับเทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพ
สถาบันภาษาไทยสิรินธรจัดสอบ CU-TFL สร้างมาตรฐานวัดสมรรถภาพการใช้ภาษาไทยสำหรับชาวต่างชาติ
ภารกิจสุดขั้วโลก นักวิจัย จุฬาฯ เดินทางไปแอนตาร์กติก สำรวจผลกระทบโลกร้อนและขยะไมโครพลาสติก
THANARA นวัตกรรมความงามผสานไมโครไบโอมฟื้นฟูสุขภาพผิวด้วย 4P-Biotics สูตรเฉพาะจากออล-ดีเอ็นเอ
สถาบันไทยศึกษา จุฬาฯ เร่งจัดทำฐานข้อมูลลายผ้าขาวม้าไทย ขับเคลื่อนมรดกภูมิปัญญาไทยสู่เวที UNESCO
“หุ่นอาจารย์ใหญ่” ฝึกเจาะเลือดและฉีดยาสุนัข เสริมความมั่นใจนิสิตสัตวแพทย์
จุฬาฯ เป็นที่ที่เราได้มาพบตัวเองจริงๆ และเป็นช่วงเวลาที่สนุกที่สุด คุณรสสุคนธ์ กองเกตุ (ครูเงาะ) นิสิตเก่า คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จุฬาฯ เป็นที่ที่เราได้มาพบตัวเองจริงๆ และเป็นช่วงเวลาที่สนุกที่สุด
คุณรสสุคนธ์ กองเกตุ (ครูเงาะ) นิสิตเก่า คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับท่าน และเพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการเว็บไซต์ที่ตรงต่อความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น ท่านสามารถทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ได้ที่ นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และท่านสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
ท่านสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
ประเภทของคุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้ท่านสามารถใช้เว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ ท่านไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน โดยมีจุดประสงค์คือนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้มีคุณภาพ และสร้างประสบการณ์ที่ดีกับผู้ใช้งาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราอาจไม่สามารถวัดผลเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีขึ้นได้ รายละเอียดคุกกี้