รู้จักจุฬาฯ
การบริหาร
อัตลักษณ์มหาวิทยาลัย
Green University
Sustainability
ติดต่อจุฬาฯ
บริจาคให้จุฬาฯ
หลักสูตร
การสมัครเข้าศึกษา
หน่วยงานการศึกษา
บริการนิสิต
บริการวิชาการ
บริการทางการแพทย์
บริการตรวจวิเคราะห์คุณภาพ
สารสนเทศและการสื่อสาร
พื้นที่สร้างสรรค์
ข่าวสารและความเคลื่อนไหว
วารสารจุฬาฯ
สาระความรู้
Highlights
17 มีนาคม 2564
ผู้เขียน ขนิษฐา จันทร์เจริญ
มหัศจรรย์แสงสีฟ้า อุปกรณ์ยูวีซี (UV-C) พิสูจน์แล้วฆ่าเชื้อโรคได้ 99.99% แต่เสี่ยงมะเร็งผิวหนังและต้อกระจก อาจารย์จุฬาฯ เตือน ใช้อย่างเข้าใจและระมัดระวัง
มนุษย์รู้จักใช้แสงอาทิตย์หรือรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ฆ่าเชื้อโรคมานานนับศตวรรษเนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อวัตถุสิ่งของที่ใช้สำหรับการอาบรังสี ซึ่งมรดกทางวัฒนธรรมนี้ได้ตกทอดมายังโลกสมัยใหม่ นักวิทยาศาสตร์ได้ขยายผลโดยนำรังสียูวีชนิดซี (UV-C) ซึ่งให้พลังงานสูงไปใช้ในงานสาธารณสุข กำจัดเชื้อแบคทีเรีย สำเร็จแล้วในการระงับการระบาดหนักของเชื้อซาร์สและเมอร์สในอดีต
และล่าสุด ในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 วิถีชีวิตยุค “นิว นอร์มอล” ที่ต้องใส่ใจสุขอนามัยและโรคติดเชื้อทำให้รังสียูวีซีกลายเป็นของสำคัญและอาจจะจำเป็นมากขึ้นในอนาคต มีการผลิตอุปกรณ์รังสียูวีซีออกมาใช้ในระดับครัวเรือนและพกพา ที่ผู้บริโภคสามารถซื้อหามาใช้ฆ่าเชื้อโรคในอากาศ น้ำ อาหาร เงินเหรียญและธนบัตร รวมถึงหน้ากากอนามัย ฯลฯ เรื่องนี้ อาจารย์ ดร.ฐิติทิพย์ ทิพยมนตรี ภาควิชารังสีเทคนิคและฟิสิกส์ทางการแพทย์ คณะสหเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกมาให้ความรู้และเตือนถึงการใช้ประโยชน์จากรังสียูวีซีด้วยความระมัดระวัง
จริงๆ อุปกรณ์รังสียูวีซีมีใช้อยู่ในโรงพยาบาลและโรงงานอุตสาหกรรมมาก่อนแล้ว เพื่อฆ่าเชื้อในอาหารและในระบบอากาศ และในช่วงหลังๆ ก็มีการนำมาใช้ในชีวิตประจำวันที่เราคุ้นเคย แต่อาจไม่รู้ เช่น อุปกรณ์ฆ่าเชื้อโรคช้อนส้อมตามโรงอาหาร เครื่องสเตอริไลสธนบัตร เป็นต้น แต่พอมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อุปกรณ์ฆ่าเชื้อโรคกลายเป็นที่ต้องการของทุกคน จึงมีการผลิตอุปกรณ์รังสียูวีซีมากขึ้นและย่อสเกลมาเป็นระดับครัวเรือนเพื่อให้ประชาชนสามารถเป็นเจ้าของได้ อย่างเช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านในรูปแบบของตู้อบแห้งฆ่าเชื้อ ซึ่งอาจนำไปใช้ในบ้านที่มีเด็กเล็ก ผู้ป่วย ผู้ที่เป็นภูมิแพ้ หรือผู้ที่มีความจำเป็นต้องดูแลความสะอาดเป็นพิเศษ นอกจากนี้ ยังมีหลอดไฟรังสียูวีซีแบบพกพาติดตัว ที่ใช้ฆ่าเชื้อโรคในอากาศ อาหาร ธนบัตร และเครื่องใช้อื่นๆ
รังสียูวี (UV) มีหลายชนิด ทั้งที่มองเห็นด้วยตาเปล่าและที่มองไม่เห็น หลากหลายเฉดตามความเข้มข้นของแสงโดยมีชื่อเรียกต่างกัน ยูวีเอ (UVA) เป็นความยาวคลื่น 315–400 นาโนมิเตอร์ เป็นชนิดที่แผ่ปกคลุมผิวโลกมากที่สุด รังสียูวีบี (UVB) ความยาวคลื่น 280–315 นาโนมิเตอร์ ส่วนรังสียูวีซี (UVC) เป็นคลื่นสั้น ความยาวคลื่น 100–280 นาโนมิเตอร์ ให้พลังงานมากที่สุดและสามารถทำลายล้างอนุภาคได้รุนแรง สามารถกำจัดเชื้อโรคได้ถึง 99.99% รังสีชนิดนี้ไม่อาจผ่านลงมาถึงชั้นผิวโลกได้เพราะถูกชั้นบรรยากาศกรองกลืนหายไปในชั้นโอโซนเสียก่อน
ดังนั้น รังสียูวีซีที่เราใช้ฆ่าเชื้อโรคกันอยู่เป็นแสงสังเคราะห์หรือแสงเลียนแบบธรรมชาติ ผ่านหลอดไฟชนิดพิเศษที่เรียกว่า “หลอด UV” ซึ่งหลายคนคุ้นเคยกันในรูปลักษณ์ของหลอดไฟสีฟ้า
ด้วยกระบวนการฆ่าเชื้อที่เรียกว่า “UVGI” (Ultraviolet Germicidal Irradiation) อุปกรณ์หลอดไฟสีฟ้าจะฉายรังสียูวีซีให้ตกกระทบบนวัตถุที่คาดว่าจะมีเชื้อโรค พลังงานของรังสีจะเข้าไปทะลุทะลวงถึงระดับ DNA และ RNA ของตัวเชื้อ ทำให้เชื้อถูกทำลาย ขยายจำนวนไม่ได้ และตายในที่สุด
ข้อดีของการใช้รังสีในการฆ่าเชื้อคือใช้เวลาไม่นาน ใช้ได้บ่อยตามความต้องการ ราคาไม่แพง ใช้งานง่าย และไม่ทำลายพื้นผิววัตถุ ไม่ทิ้งสารตกค้าง ดีกว่าการใช้แอลกอฮอล์ หรือน้ำยาฆ่าเชื้อ นอกจากนี้ เวลาใช้ฆ่าเชื้อหน้ากากอนามัย ก็ไม่ทำลายเส้นใย เหมาะสำหรับการใช้ฆ่าเชื้อในสิ่งทีเราต้องการใช้ซ้ำ (re-use)
เนื่องจากรังสีชนิดนี้ปลดปล่อยพลังงานทำลายล้างค่อนข้างสูง การนำมาใช้งานต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ไม่ควรให้รังสีโดนผิวหนังเพราะอาจทำให้เกิดมะเร็งผิวหนัง และไม่ควรจ้องมองรังสีเพราะจะเป็นอันตรายต่อเลนส์ตา ทำให้เป็นต้อกระจกได้ ผู้ใช้อุปกรณ์ UVGI ต้องป้องกันตัวตามหลักป้องกันอันตรายจากรังสีอย่างถูกต้อง
ส่วนอุปกรณ์ UVGI แบบพกพา ยังไม่แนะนำ เพราะการใช้งานอุปกรณ์นี้ควรอยู่ในที่มิดชิด ไม่เช่นนั้นอาจะเป็นโทษมากกว่าประโยชน์ แต่ในอนาคตน่าจะมีการพัฒนาออกแบบให้เหมาะสมกับผู้ใช้เพื่อการพกพา
พื้นที่ที่ควรมีอุปกรณ์นี้ ได้แก่ สถานที่สาธารณะ ที่มีคนอยู่เป็นจำนวนมากหรืออยู่เป็นเวลานาน เช่น โรงพยาบาล ห้องเรียน โรงภาพยนตร์ หอประชุม รถไฟฟ้า ห้องน้ำสาธารณะ สำนักงาน พื้นที่ที่เก็บอาหารและเครื่องดื่ม โดยติดตั้งหลอดไฟยูวีซีในท่อฆ่าเชื้อโรคในอากาศ ท่อปรับสภาพอากาศ เป็นต้น
รังสียูวีซี คือพลังงานที่ถูกปลดปล่อยออกมาเหมือนตู้อบ ถ้าจะนำมาใช้ในห้อง ต้องดูที่ขนาดของห้อง ความกว้าง ความใหญ่ เพื่อจะได้เลือกความแรงของวัตต์ให้เหมาะสม ลักษณะของห้องต้องโล่ง เพราะประสิทธิภาพการทำลายล้างที่ดี รังสีต้องวิ่งเข้าไปถึงพื้นที่นั้นๆ ถ้าหากมีสิ่งของหรือมุมก็จะบดบังการเข้าถึงของรังสีก็จะทำให้การฆ่าเชื้อโรคตรงนั้นไม่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ต้องเลือกยี่ห้อที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานสินค้า เช่น CE ROHS ว่าสามารถกำจัดเชื้อโรคบนพื้นผิวได้ถึง 99.9 %
ของเล่นส่งเสริมสุขภาวะผู้สูงวัย เล่นก็ได้ แต่งบ้านก็ดี ผลงานการออกแบบจากอาจารย์จุฬาฯ
Virtual StudioLab ห้องเรียนวิทยาศาสตร์เสมือนจริง บ่มเพาะเด็กไทยสู่นักสร้างสรรค์นวัตกรรมวิทยาศาสตร์ ผลงานนิสิต ป.เอก ครุฯ จุฬาฯ คว้ารางวัลระดับโลก
“Night Museum at Chula”เปิดประสาทสัมผัสทั้ง 5 ตื่นตากับพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน
ครบทุกคำตอบ “กายภาพบำบัด” ฟื้นฟูและพัฒนาสุขภาพสำหรับคนทุกช่วงวัย ในงานประชุมวิชาการสภากายภาพบำบัด 21-22 พ.ย.นี้
แพทย์จุฬาฯ แนะวัคซีนป้องกันโรคไอกรน ลดความเสี่ยงติดเชื้อในทุกวัย
มิตรเอิร์ธ (MitrEarth) แพลตฟอร์มความรู้ ชี้จุดเสี่ยง แจ้งเตือนภัยพิบัติ ลดความสูญเสีย
จุฬาฯ เป็นที่ที่เราได้มาพบตัวเองจริงๆ และเป็นช่วงเวลาที่สนุกที่สุด คุณรสสุคนธ์ กองเกตุ (ครูเงาะ) นิสิตเก่า คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จุฬาฯ เป็นที่ที่เราได้มาพบตัวเองจริงๆ และเป็นช่วงเวลาที่สนุกที่สุด
คุณรสสุคนธ์ กองเกตุ (ครูเงาะ) นิสิตเก่า คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับท่าน และเพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการเว็บไซต์ที่ตรงต่อความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น ท่านสามารถทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ได้ที่ นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และท่านสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
ท่านสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
ประเภทของคุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้ท่านสามารถใช้เว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ ท่านไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน โดยมีจุดประสงค์คือนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้มีคุณภาพ และสร้างประสบการณ์ที่ดีกับผู้ใช้งาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราอาจไม่สามารถวัดผลเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีขึ้นได้ รายละเอียดคุกกี้