รู้จักจุฬาฯ
การบริหาร
อัตลักษณ์มหาวิทยาลัย
Green University
Sustainability
ติดต่อจุฬาฯ
บริจาคให้จุฬาฯ
หลักสูตร
การสมัครเข้าศึกษา
หน่วยงานการศึกษา
บริการนิสิต
บริการวิชาการ
บริการทางการแพทย์
บริการตรวจวิเคราะห์คุณภาพ
สารสนเทศและการสื่อสาร
พื้นที่สร้างสรรค์
ข่าวสารและความเคลื่อนไหว
วารสารจุฬาฯ
สาระความรู้
Highlights
8 เมษายน 2565
วิศวฯ พร้อมแพทย์ จุฬาฯ ร่วมคิดค้นนวัตกรรมตรวจจำแนกชิ้นเนื้อเสี่ยงมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร คำนวณผลแม่นยำ ย้ำชูการแพทย์เชิงป้องกัน หวังลดยอดผู้ป่วยมะเร็งฯ
โรคมะเร็งหลายชนิดสามารถรักษาได้หากตรวจพบตั้งแต่ระยะแรก ๆ อย่างเช่น มะเร็งกระเพาะอาหารและมะเร็งลำไส้ใหญ่ ซึ่งสถิติโลกชี้ว่าเป็นมะเร็งที่คร่าชีวิตผู้ป่วยเป็นอันดับสามและสี่ตามลำดับ (รองจากโรคมะเร็งปอดและตับ) โดยเฉพาะมะเร็งลำไส้ใหญ่ ที่พบมากเป็นอันดับต้น ๆ ในกลุ่มคนไข้สูงอายุในประเทศไทย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนประชากรสูงวัยที่เพิ่มขึ้นด้วย
ปัจจุบันสถิติผู้สูงอายุ (เกิน 50 ปี) ในประเทศไทยปี 2564 ว่ามีจำนวนกว่า 15 ล้านคน ซึ่งเข้าข่ายเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคมะเร็งระบบทางเดินอาหาร
“สำหรับผู้สูงอายุโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งในระบบทางเดินอาหารจะเพิ่มขึ้น จึงมีคำแนะนำให้ผู้ที่อายุ 50 ปีขึ้นไป เข้ารับการตรวจช่องท้องเป็นประจำทุก ๆ 5-10 ปี ซึ่งหากประชากรกลุ่มนี้เข้าถึงบริการสาธารณสุขดังกล่าวได้อย่างทั่วถึง ก็จะได้เป็นแนวทาง “เวชศาสตร์ป้องกัน” (Preventive Medicine) ที่ให้ผู้ป่วยได้รับการตรวจและรักษาได้อย่างทันท่วงทีในระยะเริ่มต้น ซึ่งจะสามารถช่วยลดอัตราการป่วยและเสียชีวิตจากโรคนี้ได้”
นี่คือที่มาของโจทย์ในการสร้างนวัตกรรม AI ล่าสุดจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เครื่องตรวจทางเดินอาหารอัจฉริยะ “DeepGI” เพื่อช่วยตรวจจับติ่งเนื้อที่มีความผิดปกติในลำไส้ใหญ่ ผลงานชิ้นสำคัญที่ร่วมพัฒนาโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พีรพล เวทีกูล ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมด้วย ศาสตราจารย์ นายแพทย์ รังสรรค์ ฤกษ์นิมิตร รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิง สติมัย อนิวรรณน์ และ อาจารย์ แพทย์หญิง เกศินี เธียรกานนท์ จากศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ด้านการส่องกล้องระบบทางเดินอาหาร โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
ด้วยการสนับสนุนจากศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่ออุตสาหกรรม (Chulalongkorn University Technology Center : UTC) และบริษัท อีเอสเอ็ม โซลูชั่น จำกัด คณะผู้วิจัยได้ดำเนินการเก็บข้อมูลวิจัยมาตั้งแต่ปี 2562 จนพัฒนาAI ตรวจจับความผิดปกติในทางเดินอาหาร (DeepGI – Deep Technology for Gastrointestinal Tracts) ได้สำเร็จ และทดลองให้บริการคนไข้โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ฯ แล้วตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2564 เป็นต้นมา
สัญญาณเตือนมะเร็งลำไส้ใหญ่ที่เราสังเกตได้ด้วยตัวเอง อาทิ อุจจาระมีมูกปนเปื้อน คลำพบก้อนบริเวณท้องน้อยด้านขวา ขนาดอุจจาระลีบเล็ก (ผลจากขนาดชิ้นเนื้อมะเร็งที่ใหญ่อุดทางเดินลำไส้) ถ่ายอุจจาระไม่ปกติ เช่น ท้องผูก ท้องเสียเรื้อรัง ท้องผูกสลับท้องเสีย น้ำหนักลด เบื่ออาหาร ฯลฯ มักเป็นอาการที่โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่อยู่ในระยะที่ลุกลามแล้ว
“ดังนั้นจึงไม่ควรรอให้เกิดอาการ แต่ถ้าอายุเกิน 50 ปีหรือมีปัจจัยเสี่ยง ควรให้แพทย์ทำการตรวจวินิจฉัยร่างกายด้วยการส่องกล้องหรือการคัดกรองอื่นตามมาตรฐาน โดยเฉพาะผู้ทีมีบุคคลในครอบครัวมีประวัติเคยเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่หรือเคยป่วยเป็นลำไส้อักเสบเรื้อรัง”
ปัจจุบัน การส่องกล้องผ่านช่องทวารหนัก (ตรวจลำไส้ใหญ่) หรือระบบทางเดินอาหารส่วนปลาย เป็นวิธีการมาตรฐานที่ใช้ในการตรวจหาความผิดปกติต่าง ๆ เช่น ติ่งเนื้อ ในลำไส้ใหญ่ ซึ่งการตรวจจับความผิดปกติค่อนข้างมีความท้าทายมาก เนื่องจากลักษณะของติ่งเนื้อมีรูปแบบที่หลากหลาย เช่น แบบที่นูน และแบบที่แบนราบไปกับผนังลำไส้ อีกทั้งอาจจะมีขนาดที่เล็ก และสีที่กลมกลืนไปกับบริเวณโดยรอบ จึงทำให้การตรวจวินิจฉัยจึงผิดพลาดได้ง่ายหากแพทย์ขาดประสบการณ์หรืออุปกรณ์การแพทย์ไม่ครบเครื่อง จากสถิติพบว่าการตรวจอาจผิดพลาดได้ถึงร้อยละ 22 โดยประมาณ
ผศ.ดร.พีรพล จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวถึงการพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ที่ช่วยให้ทีมแพทย์ (AI-Assisted Solution) สามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และลดความผิดพลาดดังกล่าว “DeepGI จะประมวลวิเคราะห์ภาพที่ได้จากวีดีโอระหว่างการส่องกล้อง แล้ววิเคราะห์ความผิดปกติด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยใช้เทคนิคเครื่องจักรเรียนรู้ที่เรียกว่า การเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) ซึ่งโมเดลจะตีกรอบบริเวณที่มีความผิดปกติแล้วแจ้งเตือนให้กับแพทย์แบบทันที (real-time) โดยมีความแม่นยำมากกว่าร้อยละ 90 พร้อมให้การวินิจฉัย (characterization) ชนิดของติ่งเนื้อว่าเป็น ชิ้นเนื้อที่เป็นอันตราย (Neoplastic) หรือไม่เป็นอันตราย (Hyperplastic)อย่างแม่นยำ ความสามารถด้านนี้จะช่วยเพิ่มให้แพทย์มีความมั่นใจในการวินิจฉัยโรคได้มากขึ้น”
DeepGI เป็นระบบตรวจความผิดปกติในทางเดินอาหารที่มีจุดเด่น 4 ประการ ดังนี้
ผศ.ดร.พีรพล เผยว่าปัจจุบัน DeepGI อยู่ระหว่างการยื่นขอจดสิทธิบัตรระดับชาติ และยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยมีความพร้อมด้านเทคโนโลยีระดับ 5 (Technology Readiness Level 5, TRL5) “ปัจจุบัน DeepGI นอกเหนือจากช่วยในการตรวจจับติ่งเนื้อ ยังสามารถระบุชนิดของชิ้นเนื้อได้ด้วยว่าเป็นติ่งเนื้อที่เป็นเนื้อร้าย (Neoplastic) หรือเป็นติ่งเนื้อที่ไม่ใช่เนื้อร้าย (Hyperplastic) โดยไม่จำเป็นต้องตัดตัวอย่างชิ้นเนื้อออกมาทดสอบ และเรากำลังขยายขีดความสามารถของ DeepGI ในการตรวจหาความผิดปกติไปยังอวัยวะส่วนอื่น ๆ เช่น กระเพาะอาหาร และท่อน้ำดี”
“ผมหวังว่านวัตกรรมนี้จะถูกนำไปเป็นผู้ช่วยแพทย์ตามโรงพยาบาลอื่น ๆ ได้อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะโรงพยาบาลชนบทที่ขาดแคลนบุคลากรทางแพทย์และเทคโนโลยี”
สถานพยาบาลที่สนใจ DeepGI สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ผศ.ดร.พีรพล เวทีกูล ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยประสานผ่านอีเมล peerapon.v@chula.ac.th หรือผ่านทางเว็บไซต์ https://deepgi.cp.eng.chula.ac.th/
ส่วนคนทั่วไปที่ต้องการเข้ารับบริการด้วยนวัตกรรมระบบตรวจความผิดปกติในทางเดินอาหาร (DeepGI) เพื่อป้องกันโรคมะเร็งทางเดินอาหาร สามารถนัดหมายเพื่อขอรับบริการได้ที่ ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ด้านการส่องกล้องระบบทางเดินอาหาร โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ ชั้น 10 โซน A หมายเลขโทรศัพท์ 0-2256-4000 ต่อ 81001-2
ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ด้านการส่องกล้องระบบทางเดินอาหาร รพ.จุฬาฯ แนะข้อสังเกตอาการผิดปกติที่อาจเป็นสัญญาณของมะเร็งลำไส้ใหญ่ ซึ่งหากพบหลายอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยร่างกายโดยละเอียดและรับการรักษา– อุจจาระมีมูกปนเปื้อน– เลือดออกทางทวารหนัก– ปวดท้องน้อย (ปวดบิด ๆ )– คลำพบก้อนบริเวณท้องน้อยด้านขวา– ขนาดอุจจาระลีบเล็ก (ผลจากขนาดชิ้นเนื้อมะเร็งที่ใหญ่อุดทางเดินลำไส้)– ถ่ายอุจจาระไม่ปกติ เช่น ท้องผูก ท้องเสียเรื้อรัง ท้องผูกสลับท้องเสีย ถ่ายน้อยลง– น้ำหนักลด เบื่ออาหาร– สีหน้าซีดเซียวจากการเสียเลือด– ปวดท้อง ท้องอืด อาเจียน ผายลมลดลง อันเกิดจากลำไส้อุดตัน
ครบทุกคำตอบ “กายภาพบำบัด” ฟื้นฟูและพัฒนาสุขภาพสำหรับคนทุกช่วงวัย ในงานประชุมวิชาการสภากายภาพบำบัด 21-22 พ.ย.นี้
แพทย์จุฬาฯ แนะวัคซีนป้องกันโรคไอกรน ลดความเสี่ยงติดเชื้อในทุกวัย
มิตรเอิร์ธ (MitrEarth) แพลตฟอร์มความรู้ ชี้จุดเสี่ยง แจ้งเตือนภัยพิบัติ ลดความสูญเสีย
คีเฟอร์น้ำเกสรดอกกุหลาบ เครื่องดื่มสุขภาพต้านอนุมูลอิสระ ผลงานนิสิตจุฬาฯ คว้าเหรียญทองระดับโลก
The Skinov’e นวัตกรรมสกินแคร์จากเปลือกกล้วยหอมทองปทุม ผลงานวิจัยจุฬาฯ ที่ทำให้สิวเป็นเรื่องกล้วยๆ
น้ำยายืดอายุกระดาษ นวัตกรรมจุฬาฯ อนุรักษ์เอกสารและภาพศิลปะโบราณให้คงสภาพอีกนานนับทศวรรษ
จุฬาฯ มีลักษณะของความเป็นพี่น้อง ความอบอุ่น เป็นสังคมที่อยากอนุรักษ์ไว้ ศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จุฬาฯ มีลักษณะของความเป็นพี่น้อง ความอบอุ่น เป็นสังคมที่อยากอนุรักษ์ไว้
ศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับท่าน และเพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการเว็บไซต์ที่ตรงต่อความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น ท่านสามารถทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ได้ที่ นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และท่านสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
ท่านสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
ประเภทของคุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้ท่านสามารถใช้เว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ ท่านไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน โดยมีจุดประสงค์คือนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้มีคุณภาพ และสร้างประสบการณ์ที่ดีกับผู้ใช้งาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราอาจไม่สามารถวัดผลเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีขึ้นได้ รายละเอียดคุกกี้