รู้จักจุฬาฯ
การบริหาร
อัตลักษณ์มหาวิทยาลัย
Green University
Sustainability
ติดต่อจุฬาฯ
บริจาคให้จุฬาฯ
หลักสูตร
การสมัครเข้าศึกษา
หน่วยงานการศึกษา
บริการนิสิต
บริการวิชาการ
บริการทางการแพทย์
บริการตรวจวิเคราะห์คุณภาพ
สารสนเทศและการสื่อสาร
พื้นที่สร้างสรรค์
ข่าวสารและความเคลื่อนไหว
วารสารจุฬาฯ
สาระความรู้
Highlights
7 กันยายน 2565
ผู้เขียน ขนิษฐา จันทร์เจริญ
นักวิจัยคณะวิทย์ฯ จุฬาฯ ผุดผลิตภัณฑ์ทรายแมวจากมันสำปะหลัง สินค้าไทย 100 % เล็งส่งออกแข่งขันในตลาดโลก อวดประสิทธิภาพดูดซับของเหลวและกลิ่นปัสสาวะแมวได้ดี ย่อยสลายได้ในธรรมชาติ ปลอดภัยกับแมวและผู้เลี้ยง เตรียมต่อยอดทรายแมวบ่งชี้โรค
จากพืชผลทางการเกษตรที่ราคาตกต่ำ เช่น มันสำปะหลัง นักวิจัยไทยสามารถพลิกให้กลายเป็นสินค้ามูลค่าสูงขึ้นด้วยการแปรรูปเป็น “ทรายแมว” ของต้องมี-ต้องใช้สำหรับเจ้าแมวเหมียวทั้งหลาย
“ด้วยความที่เป็นคนชอบเลี้ยงแมวและใช้ผลิตภัณฑ์ทรายแมวมากว่า 10 ปี สังเกตเห็นว่าทรายแมวในท้องตลาดเกือบ 100 % นำเข้าจากต่างประเทศ จึงสงสัยว่าเพราะเหตุใดบ้านเราถึงไม่มีการผลิตทรายแมวใช้เอง เราจึงเริ่มมองหาวัตถุดิบที่เป็นผลิตผลทางการเกษตรของไทยว่ามีอะไรบ้างที่น่าจะนำมาทำเป็นทรายแมวได้ เช่น แกลบ ชานอ้อย จนมาลงตัวที่มันสำปะหลัง ” ดร.ลัญจกร อมรกิจบำรุง นักวิจัยหลังปริญญาเอก C2F ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยถึงจุดเริ่มต้นในการพัฒนาทรายแมวจากมันสำปะหลัง ภายใต้ชี่อการค้า “ไฮด์แอนด์ซีค”
“มันสำปะหลังมีคุณสมบัติด้านความเหนียวเมื่อโดนน้ำ ซึ่งตรงกับลักษณะการใช้งานของทรายแมว ที่ต้องมีคุณสมบัติในการดูดซับของเหลวและจับตัวเป็นก้อนได้เร็ว นอกจากนี้ ทรายแมวจากมันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบธรรมชาติที่สามารถกำจัดโดยทิ้งลงชักโครกได้เลย”
นวัตกรรมนี้ตอบโจทย์ในการสร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง แถมยังให้ความมั่นใจกับบรรดาทาสแมวทั้งหลายที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย ประสิทธิภาพสูง และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จึงไม่แปลกใจที่ นวัตกรรมทรายแมวผลิตจากมันสำปะหลัง โดยนักวิจัย จุฬาฯ จะได้รับรางวัลการันตีความสำเร็จมากมาย อาทิ รางวัลผลงานประดิษฐ์คิดค้นประจำปีงบประมาณ 2565 รางวัลระดับดี สาขาเกษตรศาสตร์และชีววิทยา จากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) รางวัลนักเทคโนโลยีรุ่นใหม่ของมูลนิธิส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีปี 2564 และรางวัล The Prime Minister’s Export Award ปี 2564 จากกระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น
ปัจจุบัน ตลาดผลิตภัณฑ์ทรายแมวมีทางเลือกให้ผู้บริโภคหลากหลาย ไม่ว่า ทรายแมวที่ทำจากหินภูเขาไฟ ไม้สน เต้าหู้ และทรายแมวจากมันสำปะหลัง “ไฮด์แอนด์ซีค” นับเป็นตัวเลือกล่าสุด ที่ ดร.ลัญจกร มั่นใจว่าตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การเลี้ยงแมวในคอนโดหรือในพื้นที่จำกัด เนื่องด้วยประสิทธิภาพ ความปลอดภัยต่อสุขภาพ และคุณสมบัติการย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ
“ทรายแมวของเราทำจากมันสำปะหลัง 100 % ไม่มีสารเคมีเจือปน จึงปลอดภัยต่อแมวและผู้เลี้ยง ไม่มีฝุ่นจากหินดินทรายที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพเมื่อหายใจเข้าไป นอกจากนี้ ทรายแมวจากมันสำปะหลังยังจับตัวเป็นก้อนง่าย เมื่อแมวใช้งานแล้ว ก็สะดวกในการเก็บและนำไปทิ้งชักโครกได้เลย เพราะมันสำปะหลังสามารถละลายแตกตัวในน้ำได้เร็วและย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ที่สำคัญ ทรายแมวจากมันสำปะหลังดูดกลิ่นได้ดีกว่าผลิตภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุอื่นๆ ที่มีจำหน่ายในท้องตลาด”
ความท้าทายในการผลิตทรายแมวจากมันสำปะหลังคือการหาเทคโนโลยีที่จะแปรรูปมันสำปะหลังให้เป็นทรายแมว แต่ด้วยความเป็นนักวิจัยด้านเคมี ดร.ลัญจกร ก้าวข้ามความท้าทายดังกล่าวได้สำเร็จ โดยกระบวนการผลิตเริ่มจากการนำมันสำปะหลังทั้งหัวมาย่อยเป็นชิ้นเล็กๆ ทำให้แห้งก่อนบดเป็นผง จากนั้นจึงเข้าสู่กระบวนการแปรรูปด้วยการใช้ความร้อนและความดันที่เหมาะสม จนได้ทรายแมวอัดรูปเม็ดเล็กละเอียด
“ข้อดีของการใช้มันสำปะหลังคือเป็นวัตถุดิบที่มาจากพืช ทำให้สามารถปลูกทดแทนขึ้นมาได้ ซึ่งต่างจากทรายแมวที่ใช้แร่หินเบนโทไนท์ ซึ่งได้จากการระเบิดภูเขา เป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ”
การปลูกมันสำปะหลังทดแทนเป็นการช่วยเกษตรกรให้มีรายได้หมุนเวียนสม่ำเสมอตลอดทั้งปี ทั้งนี้ ดร.ลัญจกร เผยถึงโครงการในอนาคตว่าวางแผนจะตั้งโรงงานผลิตทรายแมวจากมันสำปะหลังในแหล่งเพาะปลูกที่ จ.ชลบุรี
“เราได้ลงพื้นที่ไปพูดคุยกับเกษตรกรแล้วว่าอยากส่งเสริมให้พวกเขาปลูกมันสำปะหลัง ซึ่งเราพร้อมจะรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 10 บาทขึ้นไป ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าที่เกษตรกรเคยขายกันในราคาที่กิโลกรัมละ 4 – 5 บาท แต่เกษตรกรต้องให้ความร่วมมือในการปลูกมันสำปะหลังที่ได้คุณภาพอย่างที่เราต้องการ เพื่อเป็นวัตถุดิบสำหรับการผลิตทรายแมวที่มีคุณภาพ”
ตลาดของผลิตภัณฑ์ทรายแมวเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง โดยในประเทศไทย มูลค่าของตลาดสูงกว่า 800 ล้านบาทต่อปี ส่วนตลาดทั่วโลกอยู่ที่ราว 280,000 ล้านบาทต่อปี
“ตลาดทรายแมวมีการแข่งขันสูงมาก การหากลยุทธ์ที่จะทำให้ทรายแมวของเราเป็นที่รู้จักและให้คนหันมาใช้จึงเรื่องท้าทายอย่างยิ่ง” ดร.ลัญจกร กล่าว
ผลิตภัณฑ์ทรายแมวจากมันสำปะหลัง “ไฮด์แอนด์ซีค” ออกจำหน่ายในท้องตลาดได้ประมาณ 2 ปีแล้ว มียอดขายภายในประเทศในปีแรกราว 5 ล้านบาท และในปีที่ 2 มูลค่าการขายเพิ่มขึ้นเท่าตัวคือ 10 ล้านบาท นอกจากการจำหน่ายในประเทศแล้ว ดร.ลัญจกร เผยว่ายังได้ส่งออกผลิตภัณฑ์ทรายแมวของไทยไปต่างประเทศ อาทิ ออสเตรเลีย เวียดนาม มาเลเซีย และกำลังเจรจาเพื่อส่งไปขายยังประเทศอิตาลีและญี่ปุ่น เร็วๆ นี้อีกด้วย
จากมันสำปะหลังสู่ทรายแมวคุณภาพ เริ่มมีผู้ประกอบการหลายรายสะท้อนความต้องการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับพืชผลการเกษตรของตนเอง ซึ่งดร.ลัญจกร กล่าวว่า ชานอ้อย แกลบ ก็สามารถแปลงเป็นทรายแมวได้ แต่ไม่ง่ายเหมือนมันสำปะหลัง เนื่องจากขาดคุณสมบัติของความเหนียว แต่ก็อาจทำได้โดยการปรับปรุงสูตรด้วยการเติมแป้งมันหรือสารให้ความเหนียว
“ที่ผ่านมามีผู้สนใจมาปรึกษาอยากทำทรายแมวอยู่เยอะพอสมควร เช่น ผู้ประกอบการโรงสีข้าวซึ่งมีแกลบเหลือทิ้ง หรือแม้แต่ผู้ประกอบการที่มีเส้นใยกัญชง ซึ่งมีแกนที่ใช้ทำอะไรไม่ได้ แล้วอยากนำมาทำให้เกิดประโยชน์ ซึ่งก็มีโอกาสทำได้ แต่ต้องใช้เวลาศึกษาพัฒนาปรับปรุงสูตรต่อไปในอนาคต”
ปัจจุบัน ดร.ลัญจกร กำลังต่อยอดผลิตภัณฑ์ทรายแมวที่สามารถบ่งชี้สุขภาพน้องแมวได้ในเบื้องต้น
“เรากำลังวางแผนต่อยอดผลิตภัณฑ์ทรายแมวที่สามารถช่วยเฝ้าระวังโรคของแมวได้ เพื่อให้เจ้าของสามารถเห็นความผิดปกติของสุขภาพแมวตั้งแต่ระยะแรกๆ ก่อนจะป่วยหนัก จะได้พาน้องแมวไปรับการรักษาได้ทันท่วงที”
ผลิตภัณฑ์ทรายแมวที่กำลังวิจัยนี้สามารถตรวจวัดค่า pH และปริมาณกลูโคสในปัสสาวะแมว และแสดงผลด้วยการเปลี่ยนสี บ่งบอกถึงความเสี่ยงที่จะเกิดโรค เช่น โรคไต การติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ และโรคเบาหวาน
การต่อยอดงานวิจัยนี้ได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ โครงการต้นแบบนักประดิษฐ์ไทย นักประดิษฐ์โลก ประจำปี 2565 โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.คเนศ วงษ์ระวี ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ เป็นหัวหน้าโครงการ คาดว่าในปลายปีนี้ งานวิจัยจะแล้วเสร็จ พร้อมมีผลิตภัณฑ์วางจำหน่ายให้ได้ทดดลองใช้กัน
ผลิตภัณฑ์ทรายแมวจากมันสำปะหลัง “ไฮด์แอนด์ซีด” ถุงขนาด 2.7 กิโลกรัม ราคาถุงละ 220 – 250 บาท ใช้ได้ราว 3 อาทิตย์ต่อแมว 1 ตัว มีจำหน่ายที่ร้าน Pet Sop ในห้างสรรพสินค้านอกจากนี้ ยังมีจำหน่ายที่รพ.สัตว์ทองหล่อ ภายใต้ชื่อแบรนด์ Dr.Choice ภายใต้การผลิตแบบ OEM (Original Equipment Manufacturing)
ของเล่นส่งเสริมสุขภาวะผู้สูงวัย เล่นก็ได้ แต่งบ้านก็ดี ผลงานการออกแบบจากอาจารย์จุฬาฯ
Virtual StudioLab ห้องเรียนวิทยาศาสตร์เสมือนจริง บ่มเพาะเด็กไทยสู่นักสร้างสรรค์นวัตกรรมวิทยาศาสตร์ ผลงานนิสิต ป.เอก ครุฯ จุฬาฯ คว้ารางวัลระดับโลก
“Night Museum at Chula”เปิดประสาทสัมผัสทั้ง 5 ตื่นตากับพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน
ครบทุกคำตอบ “กายภาพบำบัด” ฟื้นฟูและพัฒนาสุขภาพสำหรับคนทุกช่วงวัย ในงานประชุมวิชาการสภากายภาพบำบัด 21-22 พ.ย.นี้
แพทย์จุฬาฯ แนะวัคซีนป้องกันโรคไอกรน ลดความเสี่ยงติดเชื้อในทุกวัย
มิตรเอิร์ธ (MitrEarth) แพลตฟอร์มความรู้ ชี้จุดเสี่ยง แจ้งเตือนภัยพิบัติ ลดความสูญเสีย
จุฬาฯ เป็นที่ที่เราได้มาพบตัวเองจริงๆ และเป็นช่วงเวลาที่สนุกที่สุด คุณรสสุคนธ์ กองเกตุ (ครูเงาะ) นิสิตเก่า คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จุฬาฯ เป็นที่ที่เราได้มาพบตัวเองจริงๆ และเป็นช่วงเวลาที่สนุกที่สุด
คุณรสสุคนธ์ กองเกตุ (ครูเงาะ) นิสิตเก่า คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับท่าน และเพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการเว็บไซต์ที่ตรงต่อความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น ท่านสามารถทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ได้ที่ นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และท่านสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
ท่านสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
ประเภทของคุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้ท่านสามารถใช้เว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ ท่านไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน โดยมีจุดประสงค์คือนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้มีคุณภาพ และสร้างประสบการณ์ที่ดีกับผู้ใช้งาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราอาจไม่สามารถวัดผลเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีขึ้นได้ รายละเอียดคุกกี้