ข่าวสารจุฬาฯ

นักวิชาการศศินทร์ เผยผลวิจัยข้อเท็จจริงและโอกาสสำหรับผู้ดูแลผู้ที่มีความแตกต่างทางการรับรู้

งานวิจัยของ ผศ.ดร.ดรูว์ บี. มัลลอรี (Dr. Drew B. Mallory) สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ฯ เผยถึงความซับซ้อนระหว่างวัฒนธรรม สังคม และประสบการณ์ของผู้ดูแลผู้ที่มีความแตกต่างด้านการรับรู้ โดยเน้นย้ำว่าโครงการฝึกอบรมสามารถเปลี่ยนแปลงทัศนคติ ความสามารถและโอกาสได้

ผศ.ดร.ดรูว์ บี. มัลลอรี อาจารย์ด้านพฤติกรรมองค์กรของสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยที่ Neurodiversity at Work Research Centre (NWRC) ได้ศึกษาวิจัยประสบการณ์ของผู้ดูแลผู้ที่มีความแตกต่างด้านการรับรู้ ซึ่งเป็นการศึกษาครั้งแรกในประเทศไทย ความแตกต่างด้านการรับรู้ หมายถึงความแตกต่างตามธรรมชาติในการทำงานของสมองและลักษณะทางพฤติกรรม รวมถึงภาวะต่าง ๆ เช่น ออทิสติก สมาธิสั้น และภาวะอ่านหนังสือไม่ออก คาดว่ามีอยู่ประมาณ 15-20% ของประชากรโลกซึ่งเทียบเท่ากับประชากรประมาณ 10-14 ล้านคนในประเทศไทย แม้จะเป็นเช่นนี้ นายจ้างในประเทศไทยมักลังเลที่จะจ้างผู้ที่ความแตกต่างด้านการรับรู้ เนื่องจากมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับความสามารถและสิ่งที่นายจ้างอาจต้องปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับการจ้างงานผู้ที่มีความแตกต่างทางการรับรู้

นอกจากนี้ครอบครัวและผู้ดูแลยังประสบกับความเครียดทางสังคมและการเงินเมื่อต้องดูแลผู้ที่มีความแตกต่างทางการรับรู้ เนื่องจากความเห็นเชิงลบจากสังคมและองค์กรและการขาดการสนับสนุนจากรัฐบาล งานวิจัยของ ผศ.ดร.ดรูว์ เป็นหนึ่งในการศึกษาเพียงไม่กี่ชิ้นที่เน้นเรื่องของผู้ที่มีความแตกต่างด้านการรับรู้และผู้ดูแลในประเทศไทย และรวมถึงมุมมองของทั้งครอบครัวชาวไทยและชาวต่างชาติในประเทศไทย

ผลการศึกษาดังกล่าวได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร PLOS One ซึ่งมีข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญเกี่ยวกับปัจจัยทางวัฒนธรรมและสังคมที่มีอิทธิพลต่อการยอมรับ การสนับสนุน และคุณภาพชีวิตโดยรวมของผู้ที่มีความแตกต่างทางการรับรู้และผู้ดูแลในประเทศไทย

การศึกษาของ ผศ. ดร.ดรูว์  มีกลุ่มตัวอย่างประกอบด้วย ผู้ดูแลและผู้ได้รับการดูแลผู้ที่มีความแตกต่างทางการรับรู้ที่ยังไม่ได้รับการฝึกอบรมด้านอาชีพ  และผู้ดูแลที่ได้รับการดูแลซึ่งได้เข้าร่วมโครงการฝึกอบรมงานมาแล้ว  ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าแนวคิดทางวัฒนธรรม เช่น เรื่อง “กรรม” และ “การรักษาหน้า” อาจนำไปสู่การตีตรา การปฏิเสธ และความลังเลในการเข้ารับการวินิจฉัยในระยะเริ่มต้นและการเข้ารับการบริการต่างๆ  ซึ่งเกิดจากทัศนคติทางสังคมเชิงลบต่อความหลากหลายทางการรับรู้และความพิการ  อย่างไรก็ตาม มุมมองบางอย่างของผู้ดูแลที่มีความแตกต่างทางการรับรู้ซึ่งเข้าร่วมโครงการฝึกอบรมได้เปลี่ยนไปตามระยะเวลา จากเดิมที่มองว่าความผิดปกติทางระบบประสาทเป็นเรื่องของผลกรรม ไปสู่มุมมองใหม่ว่าเป็นโอกาสในการพัฒนาเติบโตไปสู่การยอมรับ

“ถึงจะไม่น่าแปลกใจที่ความเชื่อทางวัฒนธรรมมีอิทธิพลต่อประสบการณ์ของผู้ดูแล แต่ระดับที่ความเชื่อทางวัฒนธรรมส่งผลต่อผู้ดูแลในประเทศไทยนั้นถือเป็นเรื่องที่น่าสังเกต การวิจัยนี้แสดงให้เห็นว่าการทำความเข้าใจปัจจัยทางวัฒนธรรมเหล่านี้มีความสำคัญต่อการพัฒนาและการสนับสนุนที่สอดคล้องกับบริบทในท้องถิ่น รวมทั้งครอบคลุมถึงผู้ดูแลทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ” ผศ.ดร. ดรูว์ กล่าว

การศึกษานี้ยังชี้ให้เห็นถึงความท้าทายผู้มีความแตกต่างทางการรับรู้ต้องเผชิญในชีวิต เช่น การเข้าถึงทรัพยากร การศึกษา และโอกาสในการทำงานที่จำกัด

งานวิจัยของ ผศ. ดร.ดรูว์ ไม่เพียงแต่เน้นย้ำถึงความท้าทายที่ผู้มีความแตกต่างทางการรับรู้ต้องเผชิญเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นผลกระทบเชิงบวกของโครงการฝึกอบรมงานเฉพาะทางที่ส่งผลต่อผู้มีความแตกต่างทางการรับรู้และผู้ดูแลด้วย “เราพบว่าผู้มีความแตกต่างทางการรับรู้ประสบความสำเร็จในโครงการฝึกอบรมงานเฉพาะทางที่ศูนย์ชุมชนในกรุงเทพฯ เกินความคาดหวังของญาติ ผู้ปกครองและผู้ดูแล การได้เห็นศักยภาพและความสามารถในการทำงานของคนที่พวกเขารักมีแนวโน้มที่จะทำให้ความเชื่อเดิมเกี่ยวกับความหมายของความแตกต่างทางการรับรู้เปลี่ยนไป และช่วยให้เปลี่ยนทัศนคติเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้ที่พวกเขาดูแลสามารถทำได้” ดร. ดรูว์อธิบาย

งานวิจัยของ ผศ. ดร.ดรูว์ เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการหาแนวทางที่สามารถช่วยให้ผู้มีความแตกต่างทางการรับรู้ในประเทศไทยสามารถพึ่งตนเองได้  ซึ่งโอกาสในการทำงานสำหรับพวกเขายังคงมีจำกัด และการฝึกอบรมส่วนใหญ่ได้รับเงินทุนไม่เพียงพอและไม่สามารถเข้าถึงได้ การจัดระบบการศึกษาควรให้มีการประสานงานระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ รวมถึงรัฐบาล โรงเรียน โครงการฝึกอบรมงาน และนายจ้าง เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ครอบคลุมและลดทอนข้อจำกัดต่างๆ

“ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องยอมรับความหลากหลายของความแตกต่างทางการรับรู้ ความหลากหลายในมนุษย์ และตระหนักถึงความสามารถและคุณค่าของพวกเขาทั้งที่บ้านและในที่ทำงานของเรา รัฐบาลไทยควรลงทุนในโครงการฝึกอาชีพที่สามารถเข้าถึงได้ และธุรกิจควรให้โอกาสและการสนับสนุนพนักงานที่มีความแตกต่างทางการรับรู้ เราสามารถสร้างผลกระทบแบบลูกโซ่ที่ไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อพวกเขาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงครอบครัวและสังคมโดยรวมด้วย” ผศ. ดร.ดรูว์กล่าว

การศึกษานี้ไม่เพียงแต่เปิดเผยถึงความท้าทายที่ผู้ดูแลและผู้ที่มีความแตกต่างทางการรับรู้ต้องเผชิญเท่านั้น แต่ยังให้ข้อมูลเชิงลึกที่สามารถนำไปปฏิบัติได้สำหรับผู้กำหนดนโยบาย โครงการสนับสนุน และการวิจัยในอนาคตในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยรวม

ข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการวิจัยอย่างต่อเนื่องของ ผศ.ดร. ดรูว์ และ NWRC เกี่ยวกับระบบนิเวศการจ้างงานของผู้ที่มีความแตกต่างทางการรับรู้ในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนให้ผู้จ้างงานนำแนวทางปฏิบัติและแนวคิดแบบ inclusive ไปใช้ ซึ่งศศินทร์เป็นสถาบันสอนบริหารธุรกิจแห่งแรกในประเทศไทยที่นำนโยบายสนับสนุนความหลากหลายและการมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียมและความเสมอภาค โดยใช้ชื่อว่า IDEALS ซึ่งหมายถึง การมีส่วนร่วม (Inclusion) ความหลากหลาย (Diversity) ความเสมอภาค (Equity) และการเข้าถึงการเรียนรู้ที่ศศินทร์ (Access to Learning at Sasin) สำหรับพนักงานและนิสิต ซึ่งรวมถึงการปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับในด้านต่าง ๆ

จุฬาฯ สนับสนุนให้อาจารย์ทำงานวิจัย นับว่าเป็นสิ่งที่ดีมากต่อทั้งอาจารย์ นิสิต รวมถึงภาคประชาสังคม

รองศาสตราจารย์ ดร.สุชนา ชวนิชย์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับท่าน และเพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการเว็บไซต์ที่ตรงต่อความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น ท่านสามารถทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ได้ที่ นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และท่านสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

ท่านสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

อนุญาตทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้ท่านสามารถใช้เว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ ท่านไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน โดยมีจุดประสงค์คือนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้มีคุณภาพ และสร้างประสบการณ์ที่ดีกับผู้ใช้งาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราอาจไม่สามารถวัดผลเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีขึ้นได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า