รู้จักจุฬาฯ
การบริหาร
อัตลักษณ์มหาวิทยาลัย
Green University
Sustainability
ติดต่อจุฬาฯ
บริจาคให้จุฬาฯ
หลักสูตร
การสมัครเข้าศึกษา
หน่วยงานการศึกษา
บริการนิสิต
บริการวิชาการ
บริการทางการแพทย์
บริการตรวจวิเคราะห์คุณภาพ
สารสนเทศและการสื่อสาร
พื้นที่สร้างสรรค์
ข่าวสารและความเคลื่อนไหว
วารสารจุฬาฯ
สาระความรู้
ข่าวสารจุฬาฯ
30 มิถุนายน 2563
ข่าวเด่น
ประเทศไทยประสบความสำเร็จในการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จนได้รับการยอมรับในระดับสากล แม้ในวันนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศจะเป็นศูนย์ ผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมายังคงพบได้ในด้านอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง จึงได้มีการจัดสัมมนาขึ้นเพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหา มีข้อมูลและความเห็นที่น่าสนใจดังนี้
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ประธานคณะกรรมาธิการการแรงงาน วุฒิสภา กล่าวถึงภาพรวมในการเปิดงานสัมมนาว่า “ผลกระทบต่อแรงงานมาจากปัจจัยสำคัญ 2 ประการคือ มาตรการควบคุมสถานการณ์ของรัฐ และการปรับตัวของภาคธุรกิจและการจ้างงานที่เกิดเป็นแนวคิด “New Normal ดังนั้นรัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเร่งทบทวนพิจารณาและวางแผนขับเคลื่อนการส่งเสริมการจ้างงาน การสร้างรายได้ที่เหมาะสม การปรับระบบประกันสังคม การคุ้มครองช่วยเหลือเยียวยาแรงงานให้มีประสิทธิภาพ รวมถึงการพัฒนาและเสริมทักษะให้แรงงาน”
“วิกฤต COVID-19 ไม่เหมือนวิกฤตใดในอดีต” ดร.เสาวณี จันทะพงษ์ ผู้เชี่ยวชาญอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวถึงสภาพปัญหาทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากสถานการณ์โควิด-19 ในงานสัมมนา “แนวทางการขับเคลื่อนตลาดแรงงานไทยเพื่อก้าวผ่านยุคโควิด-19: การปรับตัวของแรงงานทุกกลุ่มทุกช่วงวัยเพื่อความก้าวหน้า มั่นคงและยั่งยืน” งานสัมนาดังกล่าวจัดโดยความร่วมมือของศูนย์ประสานงานเพื่อการวิจัยแรงงานแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะกรรมาธิการการแรงงาน วุฒิสภา และศูนย์วิจัยแรงงานแห่งชาติ กระทรวงแรงงาน เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ข้อมูลและความคิดเห็นในการปรับตัวของแรงงานทุกกลุ่มและทุกภาคทั้งในระยะกลางและระยะยาว รวมถึงเพื่อแสวงหาแนวทางการเตรียมความพร้อมรับมือต่อวิกฤตการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
นอกจากนี้ ช่วงเดือน พ.ค. – ต้นเดือน มิ.ย. 2563 ได้มีการจัดการสัมมนาออนไลน์ 7 ครั้ง ในหัวข้อ “ตลาดแรงงานไทยหลังยุค COVID-19: การปรับตัวเพื่อความอยู่รอดและยั่งยืน” โดย CU-ColLar เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนสถานการณ์ความรุนแรงของวิกฤต COVID-19 กับภาคีเครือข่าย ตลอดจนแนวทางการปรับตัวในอนาคต ดร.มนทกานต์ ฉิมมามี นักวิจัยจากสถาบันวิจัยสังคม จุฬาฯ และ CU–ColLar ได้นำเสนอข้อสรุปที่ได้จากการสัมนาว่า วิกฤต COVID-19 ส่งผลกระทบในภาพรวมทั้งเชิงลบและเชิงบวกต่อตลาดแรงงานไทยใน 3 มิติหลักๆ ด้วยกัน ดังนี้ มิติแรก คือ วิกฤตโควิด-๑๙ ได้ “ซ้ำเติมและเปิดเผยปัญหา” มิติที่สอง คือ วิกฤติโควิด-๑๙ ได้ “เร่งให้เกิด Digital Transformation” มิติที่สาม คือ วิกฤติโควิด-๑๙ ได้ “สร้างงานใหม่ และโอกาสใหม่” ในด้านข้อเสนอแนะทางนโยบายมี ๔ เสาหลักและ ๑ แนวทาง คือ “สนับสนุนงานเดิม เพิ่มเติมงานใหม่ คุ้มครองให้ปลอดภัย ร่วมแก้ไขและหารือ มุ่งพัฒนาฝีมือ ยกระดับไทยก้าวไกลยั่งยืน”
ด้วยความช่วยเหลือจากภาครัฐ สถานการณ์ดูเหมือนจะบรรเทาและคลี่คลายลงไปบ้าง แต่ ผศ.ดร.ปิยะชาติ ภิรมย์สวัสดิ์ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาฯ ตั้งคำถามชวนคิดว่า พวกเราได้ผ่านจุดที่แย่ที่สุดไปแล้วหรือยัง ผลบวกของ COVID-19 เกิดกับธุรกิจอาหาร สุขภาพ และการสื่อสาร แต่ผลลบนั้นกินวงกว้างในหลายธุรกิจ เช่น การศึกษา เสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ สาธารณูปโภค และธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดอยู่ในธุรกิจท่องเที่ยวและขนส่ง ธุรกิจโรงแรมและภัตตาคาร และธุรกิจการค้าปลีกค้าส่ง เป็นต้น
ในเรื่องนี้ คุณประพันธ์ สิมะสันติ ในฐานะผู้แทนจากสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ให้ความเห็นว่านโยบายที่จำเป็นในปัจจุบันคือการเยียวยาให้กับแรงงานและผู้ประกอบการ โดยเฉพาะในส่วน การบริการ การท่องเที่ยว และการโรงแรม ที่ได้รับผลกระทบสูง อย่างไรก็ดี ก็ควรใช้โอกาสนี้ในการพัฒนาฝีมือแรงงานด้วย ส่งเสริมและสนับสนุนให้แรงงานในภาคส่วนนี้ได้รับความรู้ด้านภาษามากขึ้น ให้บริการที่ดีขึ้น พัฒนาทักษะเพื่อให้ตรงความต้องการของผู้ใช้บริการมากขึ้น
ผศ.ดร.ปิยะชาติ กล่าวด้วยว่า ในวิกฤตยังคงมีโอกาส หัวใจสำคัญอยู่ที่ “การปรับตัว” ถ้าเราสามารถทำให้เทคโนโลยีเข้ามาเสริมกับทักษะหรือลักษณะการทำงานของแรงงานก็จะช่วยเสริมผลิตภาพของแรงงานได้ ในยุคปกติใหม่นี้ เราควรคิดใหม่ ทำใหม่ เพราะอุปสรรคอันยิ่งใหญ่ต่อการปรับตัว คือการรับมือกับวิกฤตด้วย วิธีคิดแบบเก่าๆ
ในเรื่องนี้จำเป็นอย่างยิ่งต้องเสริมแรงด้วยงานวิจัย ตามที่ ศ.ดร.จักรพันธ์ สุทธิรัตน์ รักษาการแทนรองอธิการบดี ด้านการวิจัย จุฬาฯ ได้เสนอความเห็นเรื่องการส่งเสริมองค์ความรู้ด้านแรงงานโดยการส่งเสริมงานวิจัย แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างนักวิจัย ตลอดจนสร้างศักยภาพเจ้าหน้าที่และนักวิจัย ส่งเสริมนักวิจัยรุ่นใหม่ และเน้นการเชื่อมโยงไปสู่นโยบายที่ส่งเสริมการทำงานร่วมกันจากหลายภาคส่วน โดยเครือข่ายนักวิจัยไม่จำเป็นต้องเป็นอาจารย์หรือนักวิจัยจากจุฬาฯ เท่านั้น แต่เน้นขยายภาคีเครือข่ายนักวิจัยทั้งในและต่างประเทศ
ทั้งนี้ แนวโน้มตลาดแรงงานในอนาคตจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบ การทำงานอาจอยู่ที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าบ้านหรือออฟฟิศ และเกิดอาชีพใหม่ๆ อยู่เสมอ คุณมนัส โกศล ประธานสภาองค์การลูกจ้างพัฒนาแรงงานแห่งประเทศไทยและอนุกรรมาธิการด้านการสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ในคณะกรรมาธิการการแรงงาน วุฒิสภา เห็นความจำเป็นของการปฏิรูประบบประกันสังคมแบบถ้วนหน้าเพื่อให้ทุกคนเข้าถึงสิทธิได้ นอกจากนี้ รัฐบาลน่าจะมีนโยบายส่งเสริมภาคการผลิตทางการเกษตร โดยสนับสนุนงบประมาณให้ผู้ประกอบการที่ลงทุนทำกิจการอาหารแปรรูปมากขึ้น เพื่อรองรับแรงงานที่ถูกเลิกจ้างหลังจากสถานประกอบการปิดกิจการในช่วง COVID-19 และควรมีนโยบายให้แรงงานภาคการเกษตรอยู่ภายใต้กฎหมายแรงงานด้วย
คุณสุภา ใยเมือง ผู้อำนวยการมูลนิธิเกษตรกรรมยั่งยืน กล่าวเสริมถึงการดูแลแรงงานภาคเกษตรกรรมในประเด็นสำคัญๆ คือ จัดให้มีระบบสวัสดิการรวมถึงผู้สูงอายุภาคการเกษตร การพิจารณาการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่มีความมั่นคงและเป็นธรรม การพัฒนาโครงสร้างทางเศรษฐกิจของชุมชนโดยเปิดโอกาสให้มีตลาดหลายช่องทาง นโยบายส่งเสริมความมั่นคงทางอาหาร เศรษฐกิจของชุมชนในภาคการเกษตร นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงกลไกการเฝ้าระวังในเรื่องวิกฤตว่าสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเฝ้าระวังเรื่องภัยพิบัติ เรื่องสุขภาพ หรือการเฝ้าระวังไม่ให้อาชีพสั่นคลอน และเสนอให้เกิดกลไกเหล่านี้ ประเด็นสุดท้ายที่คุณสุภาเสริม คือ เครือข่ายทางสังคม ควรทำโครงสร้างเหล่านี้ให้เข้มแข็ง อาจจะมี sector ต่างๆ ที่ไม่ใช่แค่ sector ในชุมชน แต่อาจจะข้ามข่ายผ่านทางโซเชียลมีเดีย โครงสร้างทางสังคมเหล่านี้หากมีการศึกษาและทำให้เข้มแข็งมากขึ้นก็จะช่วยรองรับวิกฤตและพัฒนาในเชิงรุกได้ด้วย
ผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ไม่เกิดกับแค่แรงงานวัยหนุ่มสาว แต่สะท้อนความเปราะบางของสังคมสูงวัยในอนาคตด้วย ดังที่ ศ.ดร.วิพรรณ ประจวบเหมาะ คณบดีวิทยาลัยประชากรศาสตร์ และหัวหน้าโครงการจุฬาอารี จุฬาฯ กล่าวว่า ทุกภาคส่วนจำเป็นต้องเตรียมการให้พร้อมเพื่อสูงวัยอย่างมีคุณภาพ โดยเฉพาะคนรุ่นอายุ 40 ปีขึ้นไป ทั้งนี้ เพื่อความสามารถในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงตลอดช่วงชีวิต ทั้งมิติของการวางแผนที่อยู่อาศัย การออมเงิน การพัฒนาศักยภาพตนเอง รวมถึงการดูแลสุขภาพกายและใจ
ศ.ดร.วิพรรณเสนอให้ภาครัฐช่วยเพิ่มพูนทักษะการทำงานและทักษะชีวิตของประชากรอายุ 40-50 ปี ที่จะเป็นผู้สูงอายุในอนาคต ส่งเสริมแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง เศรษฐกิจฐานราก และการกระจายศูนย์กลางความเจริญ สร้างความเข้มแข็งของชุมชนหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้สามารถทำหน้าที่ในการดูแลคุณภาพชีวิตของประชากรในพื้นที่ อีกทั้งเชื่อมโยงและใช้ข้อมูลของประชากรในระดับพื้นที่มาใช้วางแผนการพัฒนาทั้งในยามปกติและยามวิกฤต โดยมุ่งเน้นที่การสร้างบ้านให้มั่นคง สร้างงานใกล้บ้าน ให้งานวิ่งสู่ชุมชน สร้างระบบชุมชนให้รองรับการบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดการย้ายถิ่น ลดความเหลื่อมล้ำ บรรเทาปัญหาเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม
อบรมบุคลากรศูนย์รักษาความปลอดภัยและจัดการจราจรแห่งจุฬาฯ หลักสูตร “Mindset กับการสื่อสารเพื่องานบริการ”
จุฬาฯ จัดเสวนาวิชาการ “การขนส่งและโลจิสติกส์ไทยในยุคสงครามการค้า”สะท้อนมุมมองการปรับตัวของผู้ประกอบการท่ามกลางบริบทเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน
จุฬาฯ ร่วมกับ 6 ชุมชนบางขุนเทียน จัด “เทศกาลฟาร์มทะเลกรุงเทพ” ต้นแบบกิจกรรมพัฒนาชุมชน สู่เศรษฐกิจสีเขียวอย่างยั่งยืน
จุฬาฯ อันดับ 1 มหาวิทยาลัยไทย จากการจัดอันดับโดย THE Asia University Rankings 2025
นิสิตคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ได้รับรางวัล Best Poster Award การประชุมวิชาการระดับนานาชาติที่มาเลเซีย
สถาบันวิชาการเพื่อความยั่งยืนทางสุขภาพจิต (TIMS) คณะจิตวิทยา จุฬาฯ จัดประชุมวิชาการเพื่อความยั่งยืนทางสุขภาพจิต
จุฬาฯ เป็นที่ที่เราได้มาพบตัวเองจริงๆ และเป็นช่วงเวลาที่สนุกที่สุด คุณรสสุคนธ์ กองเกตุ (ครูเงาะ) นิสิตเก่า คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จุฬาฯ เป็นที่ที่เราได้มาพบตัวเองจริงๆ และเป็นช่วงเวลาที่สนุกที่สุด
คุณรสสุคนธ์ กองเกตุ (ครูเงาะ) นิสิตเก่า คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับท่าน และเพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการเว็บไซต์ที่ตรงต่อความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น ท่านสามารถทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ได้ที่ นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และท่านสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
ท่านสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
ประเภทของคุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้ท่านสามารถใช้เว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ ท่านไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน โดยมีจุดประสงค์คือนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้มีคุณภาพ และสร้างประสบการณ์ที่ดีกับผู้ใช้งาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราอาจไม่สามารถวัดผลเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีขึ้นได้ รายละเอียดคุกกี้