รู้จักจุฬาฯ
การบริหาร
อัตลักษณ์มหาวิทยาลัย
Green University
Sustainability
ติดต่อจุฬาฯ
บริจาคให้จุฬาฯ
หลักสูตร
การสมัครเข้าศึกษา
หน่วยงานการศึกษา
บริการนิสิต
บริการวิชาการ
บริการทางการแพทย์
บริการตรวจวิเคราะห์คุณภาพ
สารสนเทศและการสื่อสาร
พื้นที่สร้างสรรค์
ข่าวสารและความเคลื่อนไหว
วารสารจุฬาฯ
สาระความรู้
ข่าวสารจุฬาฯ
16 สิงหาคม 2564
ข่าวเด่น, ความภูมิใจของจุฬาฯ, งานวิจัยและนวัตกรรม
เมื่อวันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม 2564 โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดแถลงข่าวความคืบหน้าการทดสอบฉีดวัคซีน “ChulaCov19” ชนิด mRNA สัญชาติไทย ของอาสาสมัครผู้ผ่านการคัดกรองที่มีสุขภาพดีในระยะที่ 1 พบอาสาสมัครมีภูมิคุ้มกันดี กระตุ้นแอนตี้บอดี้ได้สูงมากในการยับยั้งเชื้อสายพันธุ์ดั้งเดิม และสามารถยับยั้งเชื้อข้ามสายพันธุ์ได้ทั้ง 4 สายพันธุ์คือ Alpha, Beta, Gamma และ Delta ได้ เร่งเตรียมเดินหน้าผลิต และเตรียมการเพื่อขึ้นทะเบียนใช้ในภาวะฉุกเฉินต่อไป
ศ.นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า จากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในประเทศไทย โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ได้เตรียมความพร้อมของสถานที่ แพทย์ พยาบาล บุคลากร เทคโนโลยีต่างๆ ที่ทันสมัย มีมาตรฐาน นำมาใช้ในการตรวจคัดกรองและรักษาประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพนอกจากนี้ ศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ซึ่งเป็นสถาบันการวิจัยทางการแพทย์ที่ได้รับความร่วมมือจากนักวิจัยทางการแพทย์ และนักวิทยาศาสตร์ทั้งในระดับประเทศและระดับโลกมาร่วมกันพัฒนา วิจัย ต่อยอด คิดค้น ผลิตวัคซีน เพื่อใช้ในการป้องกันโรคต่างๆ ให้กับประชาชน โดยล่าสุด การพัฒนาวัคซีน ChulaCov19 ในระยะที่ 1 เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2564 ซึ่งเป็นวันแรกที่ได้ทำการทดสอบในอาสาสมัครผู้ผ่านการคัดกรองที่มีสุขภาพดี พร้อมทั้งติดตามผล ภายใต้การดูแลจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด พบว่าอาสาสมัครในการทดสอบระยะแรกทั้งหมดมีระดับภูมิคุ้มกันที่ดีมาก และมีความปลอดภัย
นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่การคิดค้นพัฒนาวัคซีน ChulaCov19 เป็นไปได้ตามเป้าหมาย ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น และมั่นใจในความปลอดภัยสูงสุดของการทดสอบฉีดวัคซีน อย่างไรก็ตามต้องขอขอบคุณกระทรวงสาธารณสุข สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ และอีกหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชน รวมถึงนักวิจัยทางการแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ทั้งในระดับประเทศและระดับโลกที่ร่วมกันพัฒนาวิจัย ต่อยอดคิดค้นผลิตวัคซีน รวมถึงการพัฒนาวัคซีน ChulaCov19 ของศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ จนประสบความสำเร็จ สามารถผลิตและพร้อมฉีดให้กับอาสาสมัครในระยะต่อไป ซึ่งจะนำมาใช้และสร้างคุณประโยชน์และชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยในระดับสากล
ศ.นพ.เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม ผู้อำนวยการบริหารโครงการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ และ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า การพัฒนาวัคซีน ChulaCov19 ได้รับการสนับสนุนจากทางภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชน อาทิ สถาบันวัคซีนแห่งชาติ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ทุนศตวรรษที่สอง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเงินบริจาคจากสมาคมศิษย์เก่าแพทย์จุฬาฯ กองทุนบริจาควิจัยวัคซีน สภากาชาดไทย
วัคซีน ChulaCov19 เป็นการคิดค้นออกแบบและพัฒนาโดยคนไทยจากความร่วมมือสนับสนุนโดยแพทย์นักวิทยาศาสตร์ผู้คิดค้นเทคโนโลยีนี้ของโลกคือ Prof. Drew Weissman มหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย ซึ่งมีความมุ่งมั่นที่ตรงกันคือต้องการให้เทคโนโลยี mRNA vaccine เข้าถึงคนส่วนใหญ่โดยเฉพาะในต่างประเทศที่รายได้ปานกลางหรือรายได้ต่ำมากขึ้น
วัคซีน ChulaCov19 ผลิตโดยสร้างชิ้นส่วนขนาดจิ๋วจากสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโคโรนา (โดยไม่มีการใช้ตัวเชื้อแต่อย่างใด) ซึ่งเมื่อร่างกายได้รับชิ้นส่วนของสารพันธุกรรมขนาดจิ๋วนี้เข้าไป จะทำการสร้างเป็นโปรตีนที่เป็นส่วนปุ่มหนามของไวรัสขึ้น (spike protein) และกระตุ้นให้เกิดการสร้างภูมิคุ้มกันไว้เตรียมต่อสู้กับไวรัสเมื่อไปสัมผัสเชื้อ เมื่อวัคซีนชนิด mRNA ทำหน้าที่ให้ร่างกายสร้างโปรตีนเรียบร้อยแล้ว ภายในไม่เกิน 6 วัน mRNA นี้จะถูกสลายไปโดยไม่มีการสะสมในร่างกายแต่อย่างใด
ที่ผ่านมาทางศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาฯ ได้ทำการทดลองในลิง และหนู ประสบผลสำเร็จ พบว่า สามารถช่วยยับยั้งไม่ให้เชื้อไวรัสเข้าสู่กระแสเลือดและสามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้ในระดับสูง จึงนำมาสู่การผลิต และ ทดสอบทางคลินิกระยะที่ 1 ให้กับอาสาสมัครในวันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน 2564 เป็นวันแรก โดยแบ่งการทดสอบได้ดังนี้ การทดสอบในระยะที่ 1 แบ่งออกเป็นสองกลุ่มอายุ จำนวน 72 คน กลุ่มแรก เป็นอาสาสมัครผู้ที่มีอายุ 18-55 ปี ทดสอบจำนวน 36 คน กลุ่มที่สอง เป็นอาสาสมัครผู้ที่มีอายุ 56-75 ปี ทดสอบจำนวน 36 คน
ในจำนวนสองกลุ่มข้างต้นจะแบ่งเป็นกลุ่มย่อยที่ฉีดวัคซีน 10 ไมโครกรัม 25 ไมโครกรัม และ 50 ไมโครกรัม เพื่อดูว่าวัคซีน ChulaCov19 มีประสิทธิภาพสูงสุดที่ปริมาณเท่าใด เพราะปัจจุบันโมเดอร์นาใช้วัคซีนปริมาณ 100 ไมโครกรัม ส่วนไฟเซอร์ใช้ 30 ไมโครกรัม ทางศูนย์ฯ ต้องศึกษาว่าคนไทยหรือเอเชีย เหมาะกับการฉีด 10 หรือ 25 หรือ 50 ไมโครกรัม จะได้รู้ขนาดที่ปลอดภัยและกระตุ้นภูมิได้สูง หลังจากนั้นจึงเข้าสู่การทดสอบทางคลินิกระยะที่ 2 จำนวน 150-300 คน คาดว่าเริ่มต้นฉีดได้ประมาณเดือนสิงหาคม 2564 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ยังได้แจ้งข่าวดีเกี่ยวกับกับการวิจัยและพัฒนาวัคซีน ChulaCov19 ว่า ผลจากการทดลองในอาสาสมัครเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2564 ของระยะที่ 1 ในอาสาสมัคร 36 คน กลุ่มอายุระหว่าง 18-55 ปี และอีก 36 คน กลุ่มอายุระหว่าง 56-75 ปี พบว่าเมื่ออาสาสมัครได้ฉีดเข็มที่สองไปแล้ว 7 วัน ผลข้างเคียงอยู่ในขั้นเล็กน้อยถึงปานกลาง เช่น ปวดบริเวณที่ฉีด เพลีย ไข้ หนาวสั่น แต่อาการจะดีขึ้นโดยเฉลี่ยภายใน 1-3 วัน และจากการทดสอบพบว่า ChulaCov19 สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันชนิดแอนตี้บอดี้ได้สูง กระตุ้นแอนตี้บอดี้ที่ได้สูงมากในการยับยั้งเชื้อสายพันธุ์ดั้งเดิม
นอกจากนี้ สามารถยับยั้งเชื้อข้ามสายพันธุ์ได้ทั้ง 4 สายพันธุ์คือ Alpha, Beta, Gamma และ Delta ได้เกิน 80% พร้อมทั้ง ยังกระตุ้นภูมิคุ้มกันชนิด T-Cell ซึ่งจะช่วยขจัดและควบคุมเชื้อที่อยู่ในเซลล์ของคนที่ติดเชื้อได้อีกด้วย
จุดเด่นอื่นๆ ของวัคซีน ChulaCov19 ได้แก่
ความท้าทายสำหรับชาวไทยก็คือถ้าเราต้องการให้มีวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งในสี่ชนิดที่กำลังดำเนินการวิจัยและพัฒนาอยู่รวมทั้งของ ChulaCov19 mRNA vaccine ให้สามารถขึ้นทะเบียนได้และใช้ได้กว้างขวางภายในก่อนปีใหม่ไทยปีหน้าก็คือเมษายน 2565 ประเทศไทยต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน 4 ด้านและต้องขับเคลื่อนอย่างจริงจัง คู่ขนานไป นั่นคือ
1. ต้องมีระบบการระดมทุนภาครัฐภาคเอกชนและภาคประชาชนอย่างมีเป้าหมายและเป็นวงเงินที่เพียงพอและมีการอนุมัติการใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพรวดเร็ว โดยมีผู้เกี่ยวข้องหลักแต่ละไฟล์ประชุมหารือกันอย่างสม่ำเสมอโดยไม่ติดในรูปแบบของกรอบราชการแบบดั้งเดิม
2. สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. เร่งกำหนดแนวทางกติกา การขอขึ้นทะเบียนวัคซีนที่ผลิตคิดคนในประเทศไทยว่าจะต้องทำวิจัยมากน้อยอย่างไรหรือจะยึดเกณฑ์ใกล้เคียงกับของไต้หวัน ซึ่งต้องเร่งออกมาให้ชัดเจนภายในกันยายนนี้ เพื่อจะได้มีการดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว
3. โรงงานผลิตวัคซีนของไทยในกรณีของ ChulaCov19 mRNA กำลังเร่งระดมการผลิตให้สามารถผลิตวัคซีนสำหรับทดสอบในอาสาสมัครระยะที่สองบีหรือระยะที่สามและต่อยอดไปเป็นการผลิตจำนวนหลายล้านโดส เพื่อใช้จริงในการขึ้นทะเบียน
4. รัฐบาลต้องมีนโยบายการจัดซื้อวัคซีนล่วงหน้าเพื่อทำให้ผู้พัฒนาวัคซีนสามารถที่จะมีงบประมาณในการไปจองเลขสั่งซื้อวัตถุดิบในการผลิตซึ่งจะต้องใช้เวลาในการดำเนินการอย่างน้อยหกเดือน หากประเทศไทยมุ่งมั่นจริงจังและดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพเราเชื่อว่าประเทศไทยภายในก่อนสงกรานต์ปีหน้าจะต้องมีอย่างน้อยหนึ่งวัคซีนได้ใช้จริงสำหรับคนไทยโดยคนไทย
เทศกาลความสนุกส่งท้ายปี “Siam Street BIG RETURN 2024” 20-22 ธันวาคมนี้ที่สยามสแควร์ ชมฟรีตลอดงาน
คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ จัดงานประกาศผลมูลค่าแบรนด์องค์กร ASEAN and Thailand’s Top Corporate Brands 2024 มอบรางวัลสุดยอดแบรนด์องค์กรและรางวัลหอเกียรติยศ
ผศ.ทพ.ดร.ศุภชัย ชื่นจิตรวงษา ผู้ช่วยอธิการบดี จุฬาฯ ได้รับยกย่องเป็นทันตแพทย์ดีเด่น ด้านพัฒนาวิชาชีพ
จุฬาฯ จัดงาน “Chula Townhall” เปิดวิสัยทัศน์พัฒนามหาวิทยาลัยรอบทิศโดยมีนิสิตเป็นศูนย์กลาง พร้อมส่งความสุขปีใหม่ให้ชาวจุฬาฯ
จุฬาฯ เสริมสร้างศักยภาพด้านการบริหารจัดการแก่ผู้บริหาร หลักสูตร The Leader Prospects รุ่นที่ 14
เชิญชวนชาวจุฬาฯ เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาภายในของบุคลากรจุฬาฯ ครั้งที่ 45 ประจำปี 2568
27 มกราคม – 7 มีนาคม 2568
จุฬาฯ เป็นที่ที่เราได้มาพบตัวเองจริงๆ และเป็นช่วงเวลาที่สนุกที่สุด คุณรสสุคนธ์ กองเกตุ (ครูเงาะ) นิสิตเก่า คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จุฬาฯ เป็นที่ที่เราได้มาพบตัวเองจริงๆ และเป็นช่วงเวลาที่สนุกที่สุด
คุณรสสุคนธ์ กองเกตุ (ครูเงาะ) นิสิตเก่า คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับท่าน และเพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการเว็บไซต์ที่ตรงต่อความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น ท่านสามารถทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ได้ที่ นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และท่านสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
ท่านสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
ประเภทของคุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้ท่านสามารถใช้เว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ ท่านไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน โดยมีจุดประสงค์คือนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้มีคุณภาพ และสร้างประสบการณ์ที่ดีกับผู้ใช้งาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราอาจไม่สามารถวัดผลเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีขึ้นได้ รายละเอียดคุกกี้