ข่าวสารจุฬาฯ

จุฬาฯ ขยายเวลาความร่วมมือการตรวจสอบการลอกเลียนวรรณกรรมด้วย “อักขราวิสุทธิ์ (พลัส)” กับสถาบันการศึกษา หน่วยงานของรัฐและรัฐวิสาหกิจ

                จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยขยายระยะเวลาของข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการกับสถาบันอุดมศึกษา หน่วยงานของรัฐและรัฐวิสาหกิจ จำนวน 87 แห่ง ในการใช้โปรแกรมอักขราวิสุทธิ์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ออกไปอีกเป็นเวลา 5 ปี จนถึงวันที่ 26 มีนาคม 2570 พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการระหว่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกับสถาบันอุดมศึกษา หน่วยงานของรัฐและรัฐวิสาหกิจต่างๆ ในการขยายเวลาข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการฯ จัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์ผ่านทางโปรแกรม Zoom เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฎาคม 2565 โดยมี นายวันนี นนท์ศิริ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานกล่าวเปิดงานและร่วมเป็นสักขีพยาน กล่าวรายงานโดย รศ.ดร.ยุทธนา ฉัพพรรณรัตน์ คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย จุฬาฯ

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยริเริ่มพัฒนา “โปรแกรมอักขราวิสุทธิ์” เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยตรวจสอบการลอกเลียนวรรณกรรมทางวิชาการของบุคคลอื่นจนสำเร็จตั้งแต่ปี 2556 และในปี 2557 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีนโยบายอนุญาตให้สถาบันการศึกษา หน่วยงานของรัฐและรัฐวิสาหกิจใช้งานโปรแกรมอักขราวิสุทธิ์ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย โดยทำความร่วมมือทางวิชาการกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา มีสถาบันการศึกษา หน่วยงานของรัฐและรัฐวิสาหกิจ จำนวนทั้งสิ้น 150 แห่ง ให้ความสนใจใช้โปรแกรมอักขราวิสุทธิ์และร่วมทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อขยายเครือข่ายความร่วมมือในการตรวจสอบการลอกเลียนวรรณกรรมในวิทยานิพนธ์ งานวิจัย และผลงานทางวิชาการ โดยใช้โปรแกรมอักขราวิสุทธิ์

                นายวันนี นนท์ศิริ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้นอกจากจะเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายทางวิชาการที่ใช้งานโปรแกรมอักขราวิสุทธิ์ในการตรวจสอบการลอกเลียนวรรณกรรมแล้ว ยังเป็นการแสดงจุดยืน เจตนารมณ์ และความมุ่งมั่นของสถาบันการศึกษาต่าง ๆ หน่วยงานของรัฐและรัฐวิสาหกิจต่อการแก้ไขปัญหาการลอกเลียนวรรณกรรม ที่กำลังเป็นปัญหาคุกคามอยู่ในแวดวงวิชาการในปัจจุบัน และยังเป็นอีกหนึ่งมาตรการสำคัญในการปลูกฝังความซื่อสัตย์ ซึ่งเป็นคุณธรรมสำคัญของนิสิตนักศึกษา นักวิชาการ ทั้งในแวดวงการศึกษาและวงวิชาการต่าง ๆ รวมถึงการร่วมมือกันส่งเสริมและผลักดันเพื่อสร้างและขยายฐานข้อมูลอ้างอิง เพื่อการตรวจสอบการลอกเลียนวรรณกรรมของประเทศไทยให้มีความแข็งแกร่งและเกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งต้องได้รับความร่วมมือจากทุกสถาบันการศึกษา และหน่วยงานด้านการศึกษาและวิชาการ

                รศ.ดร.ยุทธนา ฉัพพรรณรัตน์ คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย จุฬาฯ  กล่าวว่า โปรแกรมอักขราวิสุทธิ์ริเริ่มจากแนวคิดของ รศ.ดร.อมร เพชรสม อดีตคณบดีบัณฑิตวิทยาลัย จุฬาฯ เป็นการสร้างมาตรฐานในการป้องกันการลักลอกผลงานวิชาการเพื่อสร้างจิตสำนึกให้กับนิสิตนักศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาฯ ไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาปรับปรุงระบบโปรแกรมอักขราวิสุทธิ์ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อต่อยอดไปสู่ความเป็น “อักขราวิสุทธิ์ (พลัส)” โดยมีการขยายฐานข้อมูลต่างๆ เช่น ฐานข้อมูลงานวิจัยกับศูนย์ดัชนีการอ้างอิงวารสารไทย (Thai-Journal Citation Index Centre) หรือ TCI รวมไปถึงฐานข้อมูลสำคัญอื่นๆ เพื่อเป็นแหล่งอ้างอิงในการตรวจสอบการลอกเลียนวรรณกรรมที่กว้างขวางยิ่งขึ้น

รศ.ดร.ยุทธนาเผยว่าการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงสัญลักษณ์ของการตระหนักรู้ในเรื่องจริยธรรมทางงานวิชาการซึ่งไม่ได้อยู่ในระดับอุดมศึกษาเท่านั้น เนื่องจากยังมีปัญหาทับซ้อนอยู่ในการลอกเลียนงานวรรณกรรมในทุกระดับของการศึกษาและวิชาชีพ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเล็งเห็นถึงความสำคัญจึงได้ขยายระยะเวลาการใช้โปรแกรมอักขราวิสุทธิ์ต่อไปอีก 5 ปีและไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการใช้งาน เพื่อให้เกิดคลังข้อมูลขนาดใหญ่ด้านวิชาการของประเทศไทย

“จุฬาฯ ได้พันธมิตรสำคัญมากมายในการสร้างความร่วมมือใช้โปรแกรมอักขราวิสุทธิ์ (พลัส) การได้ฐานข้อมูลสำคัญของศูนย์ดัชนีการอ้างอิงวารสารไทย (Thai Journal Citation Index Centre หรือ TCI) จะทำให้เกิดความแม่นยำสูงในการตรวจจับการทำซ้ำ ลอกเลียนวรรณกรรมได้ดียิ่งขึ้น หวังว่าโปรแกรมอักขราวิสุทธิ์ (พลัส) จะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการให้บริการกลาง     ในการเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลด้านวิชาการะหว่างกระทรวงต่างๆ ให้เกิดเป็น Academic Public Service เพื่อให้บริการทั้งประเทศไทยในอนาคต” รศ.ดร.ยุทธนา กล่าวทิ้งท้าย

จุฬาฯ สนับสนุนให้อาจารย์ทำงานวิจัย นับว่าเป็นสิ่งที่ดีมากต่อทั้งอาจารย์ นิสิต รวมถึงภาคประชาสังคม

รองศาสตราจารย์ ดร.สุชนา ชวนิชย์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับท่าน และเพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการเว็บไซต์ที่ตรงต่อความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น ท่านสามารถทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ได้ที่ นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และท่านสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

ท่านสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

อนุญาตทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้ท่านสามารถใช้เว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ ท่านไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน โดยมีจุดประสงค์คือนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้มีคุณภาพ และสร้างประสบการณ์ที่ดีกับผู้ใช้งาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราอาจไม่สามารถวัดผลเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีขึ้นได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า