ประกาศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรื่อง ข้อปฏิบัติของบัณฑิตในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ประจำปีการศึกษา 2564 ลงวันที่ 9 พฤศจิกายน 2565
ประกาศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เรื่อง ข้อปฏิบัติของบัณฑิตในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๔
โดยที่ปรากฏว่ามีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทย จะอยู่ในภาวะที่สามารถควบคุมได้แล้วพอสมควรก็ตาม แต่เพื่อให้การดำเนินงานพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๔ ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นโดยความเรียบร้อย และปลอดภัย สอดคล้องกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ตลอดทั้งเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงกำหนดข้อปฏิบัติของบัณฑิตในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๔ ไว้ดังต่อไปนี้
- บัณฑิตผู้จะมีสิทธิขึ้นรับพระราชทานปริญญาบัตร คือบัณฑิตผู้สำเร็จการศึกษาในปีการศึกษา ๒๕๖๔ และผู้สำเร็จการศึกษา ๒๕๖๒ และพ.ศ. ๒๕๖๓ ที่ได้รับผลกระทบสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ซึ่งได้รับอนุญาตให้ขึ้นรับพระราชทานปริญญาบัตร ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๔ และได้เข้ารับการฝึกซ้อมครบถ้วน ตามที่คณะอนุกรรมการฝ่ายฝึกซ้อมบัณฑิต ผู้กราบบังคมทูลและจัดบัณฑิตขึ้นรับพระราชทานปริญญาบัตรกำหนด
- บัณฑิตที่จะมีสิทธิขึ้นรับพระราชทานปริญญาบัตร คือบัณฑิตที่ผ่านการตรวจคัดกรองโรครวมถึงดำเนินการต่าง ๆ และผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ตามที่คณะอนุกรรมการฝ่ายมาตรฐานการแพทย์และการสาธารณสุข คณะกรรมการดำเนินงานพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๔ กำหนด
- หากมีกรณีเป็นที่สงสัยเกี่ยวกับอาการหรือความเสี่ยงต่อโรคของบัณฑิต หรือจำเป็นจะต้องมีการวินิจฉัยชี้ขาดเกี่ยวกับการปฏิบัติตามหรือความสอดคล้องกับมาตรฐานหรือเกณฑ์มาตรฐานทางการแพทย์ ให้เป็นอำนาจของประธานอนุกรรมการฝ่ายมาตรฐานการแพทย์และการสาธารณสุข หรือผู้ที่ประธานอนุกรรมการฝ่ายมาตรฐานการแพทย์และการสาธารณสุขเป็นผู้วินิจฉัยมอบหมายเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาดและการวินิจฉัยชี้ขาดดังกล่าวให้ถือเป็นที่สุด
- บัณฑิตต้องแต่งกายตามประกาศจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรื่อง การแต่งกายของบัณฑิตในงานพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พ.ศ.๒๕๖๒ และต้องสวมหน้ากากอนามัยชนิด Surgical Mask ที่มหาวิทยาลัยจัดให้ ๒ ชั้น ตลอดเวลาที่อยู่ในพิธี โดยหน้ากากอนามัยดังกล่าวคณะอนุกรรมการฝ่ายฝึกซ้อมฯ จะแจกให้กับบัณฑิตที่บริเวณทางเข้าหอประชุม สำหรับเวลาก่อนหน้าที่บัณฑิตจะได้รับแจกหน้ากากอนามัยที่มหาวิทยาลัยจัดให้ ให้บัณฑิตสวมหน้ากากอนามัยชนิด Surgical Mask ที่จัดเตรียมมาเองตั้งแต่เข้าในบริเวณงาน
- เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยในการเตรียมการจัดบัณฑิตซึ่งมีจำนวนมากเข้านั่งในบริเวณหอประชุม และเพื่อการตรวจคัดกรองโรคเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ให้บัณฑิตไปพร้อม ณ จุดนัดหมาย ตามจุดนัดหมายที่คณะอนุกรรมการฝ่ายฝึกซ้อมฯ กำหนด ก่อนเวลา ๐๖.๐๐ น. สำหรับรอบเช้า และก่อนเวลา ๑๐.๓๐ น. สำหรับรอบบ่าย บัณฑิตที่มายังจุดนัดหมายหลังเวลาดังกล่าว คณะอนุกรรมการฝ่ายฝึกซ้อมฯ จะไม่อนุญาตให้ขึ้นรับพระราชทานปริญญาบัตร
- บัณฑิตจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนพิธีที่คณะอนุกรรมการฝ่ายฝึกซ้อมฯ ได้จัดฝึกซ้อมให้ก่อนหน้าวันพิธี ตามคำแนะนำของคณะอนุกรรมการฝ่ายต่าง ๆ ซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ในพิธี หรือคณาจารย์ หรือเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายโดยเคร่งครัด และให้ถือว่าข้อกำหนด แนวปฏิบัติในการฝึกซ้อม ตลอดจนคำแนะนำ คณะอนุกรรมการฝ่ายฝึกซ้อมบัณฑิต ผู้กราบบังคมทูล และจัดบัณฑิตขึ้นรับพระราชทานปริญญาบัตร ปีการศึกษา ๒๕๖๔ เป็นส่วนหนึ่งของประกาศนี้
- ด้วยพิธีพระราชทานปริญญาบัตร เป็นพิธีอันสำคัญซึ่งเป็นกิตติประวัติสำหรับบัณฑิตผู้เข้าร่วมพิธีทุกคน ฉะนั้น บัณฑิตต้องงดการแสดงออกหรือการกระทำที่ไม่เหมาะสม ไม่ชอบด้วยกาละและเทศะ ซึ่งมีลักษณะเป็นการรบกวนพิธีโดยรวมหรือรบกวนผู้ร่วมพิธีอื่น ๆ เพื่อรักษาไว้ซึ่งเกียรติของผู้เป็นบัณฑิตซึ่งได้รับการศึกษามาอย่างดีแล้ว
- ให้บัณฑิตถือปฏิบัติตามประกาศนี้โดยเคร่งครัด ผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามประกาศนี้ คณะกรรมการดำเนินงานพิธีพระราชทานปริญญาบัตร มีสิทธิที่จะพิจารณาไม่ให้ร่วมในพิธี ไม่ให้ขึ้นรับพระราชทานปริญญาบัตร หรือเชิญออกจากพิธี หรือออกจากบริเวณงานหรือออกจากบริเวณมหาวิทยาลัยได้ แล้วแต่กรณี
- ในกรณีที่เป็นที่สงสัย หรือจะต้องมีการวินิจฉัยชี้ขาด ตามประกาศนี้ ให้เป็นอำนาจของประธานคณะกรรมการดำเนินงานพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ปีการศึกษา ๒๕๖๔ ในการวินิจฉัยชี้ขาด
ประกาศ ณ วันที่ ๙ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปมทอง มาลากุล ณ อยุธยา)
ประธานคณะกรรมการดำเนินงานพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ปีการศึกษา ๒๕๖๓
รองอธิการบดี
ปฏิบัติการแทนอธิการบดี
จุฬาฯ มีลักษณะของความเป็นพี่น้อง ความอบอุ่น เป็นสังคมที่อยากอนุรักษ์ไว้
ศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย